หนังสยองขวัญชื่อ Eli ที่มีตัวเอกคือหนุ่มน้อยที่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง (หนังบอกเราอย่างนั้น) เด็กหนุ่มที่ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ หากต้องออกต้องใส่ชุดอวกาศออกจากบ้านตัวเองตลอดเวลา แม้จะอยู่ในบ้านก็ต้องอยู่ในเตนท์ปลอดเชื้อเช่นกัน ... ชีวิตที่เหมือนต้องถูกจองจำตลอดเวลานั้น ทำให้ผู้เป็นแม่ โรส และ พอล ผู้เป็นบิดา ต้องพยายามหาทางรักษา
หนทางสุดท้ายที่ทั้งคู่เลือกคือ ดร.ฮอร์น (Horn) ที่รักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก ฉีดเชื้อไวรัสที่ถูดดัดแปลงพันธุกรรมให้สามารถเข้าไปรักษายีนที่ผิดปกติในตัวมนุษย์ของเราได้ ซึ่งในตัวอีไลมียีนตัวนี้อยู่ ซึ่งหากสามารถรักษาได้นั้น อีไล ก็จะหาย แต่หากรักษาไม่ได้ก็ตาย
ตอนแรกหนังบอกเราว่านี่คือการต่อสู้ของเด็กหนุ่มที่พยายามเข้มแข็งเพื่อรักษาตัวเองให้หายจากโรค มุ่งหวังให้กลับไปใช้ชีวิตแบบคนปกติ ถึงแม้จะเจอกับอาการข้างเคียงของยา อาการข้างเคียงจากการรักษา ทำให้เห็นภาพหลอน เห็นผี เห็นคนที่ไม่มีอยู่จริง แต่ทุกอย่างทำให้อีไลและครอบครัวเชื่อว่านี่คือผลข้างเคียงจากยา และการรักษาที่อีไลได้รับ
แต่หลังจากนั้นไม่นานอีไลก็เริ่มไม่เชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือภาพหลอน ทว่ามันคือความจริง เด็กผู้หญิงข้างหน้าต่าง วิญญาณที่พยายามลากอีไลออกไปนอกบ้าน และพยายามบอกอะไรเขาบางอย่าง
ดร.ฮอร์น หลังจากพยายามรักษาด้วยยาไม่สำเร็จ ก็เริ่มการรักษาที่เลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ได้แก่ การเจาะชิ้นเนื้อบริเวณสะโพก การเจาะกะโหลก เป็นต้น ทั้งนี้ทำโดยเขาถูกมัดแขนมัดขา ตรงช่วงการรักษาดูจะเป็นอะไรที่บีบคั้นเราพอสมควร เพราะส่วนตัวคิดว่าเป็นความรุนแรงแบบหนึ่ง
ซึ่งความไม่พอใจ ความสงสัย หรืออะไรก็ตาม ทำให้อีไลพยายามหาความลับที่ซ่อนอยู่ในสถานพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งเขาใช้ร่องรอยจากวิญญาณที่เขาเจอ ทำให้เขารู้ว่าก่อนหน้านี้มีคนที่ตายจากการรักษา และความจริงอื่น ๆ
ซึ่งพล็อตตอนท้ายเรื่องจะถูกพลิกจากการรักษากลายเป็นอย่างอื่นแทน ... นับว่าหนังพาเราไปจนสุดมาก ถ้าเปรียบเป็นรถคือขับรถตกเหวไปเลย แต่แปลกตรงที่ก่อนหน้านี้หนังไม่ได้ใบ้ไว้ก่อนเลยว่าจะจบแบบนี้ ขอบอกเลยว่ากล้ามากที่พาคนดูมาเจอตอนจบแบบนี้ ถ้าทำออกมาไม่ดีก็เละเลย
ส่วนผสมของหนังเรื่องนี้ ยังทำให้เรากลัวจนสุดไม่ได้ เพราะหนังไม่ได้ไปสุดสักทาง ส่วนใหญ่หนังผีจะเน้นความหลอน ความกลัว ความผีตุ้งแช่อะไรสักอย่าง แต่เรื่องนี้ด้วยความที่พล็อตมันพลิกไปมาก ทำให้บรรยากาศของหนังไม่ได้ทำให้เรากลัวมาก แทนที่ผมกลัวผี ผมกลับไปกลัวการรักษาของอีไลมากกว่า
เอาล่ะไปดูหนังสยองขวัญที่มีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปบนเน็ตฟลิกซ์ได้เลย Netflix: Eli [2019] รับรองว่าจุดจบของอีไลจะทำให้คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น