หนังจากทีมผู้สร้างของเน็ตฟลิกซ์เองเข้าโปรแกรมเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา พล็อตหนังเป็นแนวจิตวิทยาที่ทำให้คนดูคาดเดาถึงความเป็นไปได้ของหนังไม่ออกจนสุดท้ายเฉลยตอนจบแบบคาดไม่ถึง หนังเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง The Invisible Guest และ Forgotten ซึ่งทั้งสองเรื่องก็พาผมหักมุมไปมาจนแหกโค้งมาแล้วเช่นกัน
หนังเล่าเรื่องของครอบครัวมอนโร ที่กำลังขับรถข้ามเมืองไปเยี่ยมครอบครัวเนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ระหว่างดันทางเกิดอุบัติเหตุ โจแอนนาและเพอรี่ ภรรยาและลูกสาวของเรย์ ตกลงไปยังไซต์ก่อสร้างสูงประมาณสามเมตร ทำให้เรย์ต้องพาทั้งคู่ไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เรย์พยายามทำให้ทั้งคู่ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด ระหว่างนั้นเรย์สังเกตเห็นความผิดปกติ เช่น การจัดการคนไข้ กล่องที่เขียนว่าอวัยวะสำหรับปลูกถ่าย เป็นต้น ซึ่งเมื่อหมอได้เข้าตรวจลูกสาวของเขาที่สงสัยว่าแขนหักนั้น ทำให้ต้องพาไปทำ CAT Scan เพื่อเอกซเรย์ดูสาเหตุและจัดการรักษา ซึ่งระหว่างนั้นเรย์ต้องรอบริเวณผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล จนกระทั่งเวลาล่วงผ่านไปตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนถึงห้าโมงเย็น ทั้งคู่ยังไม่ออกมา
เรย์จึงเริ่มสงสัย และพยายามพูดคุยกับพยาบาลที่รับผู้ป่วย ซึ่งกลายเป็นอีกคนนึงเพราะเปลี่ยนเวร ทำให้เขาต้องตามหาต่อว่าภรรยาของเขาไปไหน พยายามถามทุกคนที่เกี่ยวข้อง สอบถามไปยังห้องเอกซเรย์ก็ตอบมาว่าไม่มีคนไข้เข้าใช้ตั้งแต่เก้าโมงเช้า ทั้งที่ลูกสาวของเขาเข้าไปก่อนเที่ยง เรย์เริ่มถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น
ประจวบกับเขาเจอตำรวจที่มาลาดตระเวนตามหน้าที่ ทำให้เขาแจ้งตำรวจว่าโรงพยาบาลกักขังภรรยาและลูกสาวเขาไว้โดยไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนั้น โรงพยาบาลบอกว่าเรย์เข้ามาคนเดียวไม่ได้พาใครมาด้วย สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำคือรักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเรย์เท่านั้น ไม่ได้ทำการรักษาโจแอนนาและเพอรี่ลูกสาวของเขาแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดก็ไม่เจอตัวของทั้งคู่ ทำให้ตำรวจเริ่มปักใจเชื่อว่าเรย์มีอาการทางจิต แต่เรย์นั้นก็มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าโรงพยาบาลกักตัวลูกสาวและภรรยาเขาไว้จริง
ต้องไปติดตามกันต่อ ส่วนตัวผมบอกเลยว่า ดูลุ้นไปกับเรย์มากมากว่า ตกลงเขาคิดไปเอง หรือโรงพยาบาลจับตัวลูกสาวกับภรรยาเขาไว้เพื่อนำอวัยวะภายในไปขาย สนุกมากครับ ตอนจบต้องบอกว่าจบแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
กดไปดูกันที่ Netflix: Fractured [2019] ได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น