ผีช่องแอร์เป็นหนังที่ออกฉายในปี 2547 ซึ่งเป็นตอนที่ผมกำลังเรียน ม.ปลายอยู่ที่พัทลุง ตอนนั้นโรงหนังที่พัทลุงยังเป็นโคลีเซียมหนูวิ่งอันเก่า และธรรมเนียมการดูหนังยังไม่ฮิตเท่ากับตอนเรียนมหาลัยที่หาดใหญ่ จึงไม่ได้ดูหนังอะไรสมัยเรียนมัธยมหรอก
พอเวลามันรันอีกทีมาอยู่ที่หาดใหญ่ จะมีช่วงนึงที่ผีช่องแอร์กลับมาดังอีกครั้ง จนตอนนั้นก็เกิดคำถามว่าเป็นโรงแรมไหนในหาดใหญ่ ทำไมไม่มีข่าว เลยลองถามเพื่อนที่เป็นคนหาดใหญ่ดูเหมือนมันก็พอได้ฟังและเดาว่าน่าจะเป็นโรงแรมไหนนะครับ แต่ที่ไม่พูดกันน่าจะเป็นเพราะกลัวโดนฟ้องมากกว่า
ซึ่งผีช่องแอร์ที่ผมดูมีเรื่องเต็มอยู่ในยูธูปช่องของโมโนฟิล์ม โดยเรื่องย่อเป็นเรื่องเล่าของคนที่เหลือรอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย เล่าว่า ตนกับเพื่อนเป็นกลุ่มนักดนตรีที่มาหางานทำจากกรุงเทพฯ ไปเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนคนหนึ่งสังเกตว่ามีผ้าขาวสกปรกห้อยลงมาจากช่องแอร์ ทั้งที่ตอนแรกเข้ายังไม่มี จึงทำการดึงลงมาจนได้ผ้าขาวสายยาวลงมาเป็นกองใหญ่ จนกระทั่งเพื่อนอีกคนตัดสินใจเปิดฝาช่องแอร์ลงมาดูเท่านั้นแหละ เหมือนปฏิกริยาลูกโซ่ พอมันแหงนหน้าขึ้นไปดูในช่องแอร์ ก็เกิดอาการตัวแข็งปากสั่น เดินเงียบ ๆ ออกไปจากห้องพัก คนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สาม จนทั้งหมดเดินออกจากห้องไป หลังจากได้สบตากับผีช่องแอร์ แล้วโศกนาฏกรรมก็ตามมาเพื่อนคนแรกถูกรถชนตายหน้าโรงแรมที่พัก คนที่สองเห็นผีจนหลอนชิงปืนตำรวจมากราดยิงผี จนสุดท้ายยิงปืนกรอกปากตัวเองตาย ที่เหลืออีกสี่คนเลยไปหาหลวงพ่อที่วัด ท่านก็ให้แก้ทางโดยการให้ลงไปนอนในโลงผีตายโหงตอนเที่ยงคืนจนครบสิบวัน แต่ทว่าเพื่อนต้องไปหาโลงมาเองระหว่างทางเพื่อนคนแรกที่มีบ้านอยู่ในเมืองนั้น จึงขอกลับบ้านทว่าก็กลับโดนอาถรรพ์ ผีช่องแอร์ตามมาหลอกจนต้องผูกคอตายในบ้านของตัวเอง จนกลับมาถึงวัด คนที่สี่ตัดสินใจลงไปนอนในโลงแก้อาถรรพ์โดยไม่ทำพิธีจากหลวงพ่อก่อน จนสุดท้ายก็ตายอยู่ในโลงที่เหลืออีกสองคนคือผู้หญิงและผู้ชายก็ตัดสินใจไปตามหาความจริงว่าผีช่องแอร์คือใคร พบว่า แสงดาวคือ คนที่มาทำงานขายบริการที่โรงแรมแห่งนั้น แล้วดันไปเจอลูกค้าโรคจิตจับเธอเชือดพร้อมหั่นคอไปเก็บไว้ในช่องแอร์ ทั้งคู่จึงพยายามตามไปที่บ้านของเธอเพื่อส่งจดหมายที่แสงดาวทิ้งไว้ที่โรงแรมให้กับแม่ของเธอ เผื่อเธอจะเลิกตามหลอกเสียทีทว่าเมื่อไปเจอแม่ของแสงดาว เรื่องราวสุดเศร้าก็เผยออกมา แสงดาวกับน้องสาว ตะวัน เป็นลูกเลี้ยงติดแม่ของบ้านหลังนั้น จนวันนึงพ่อเลี้ยงทำการข่มขืนแสงดาว โดยที่ตะวันก็อยู่ในห้องนั้นด้วย จนเมื่อแสงดาวหนีออกจากบ้านไป ตะวันก็น่าจะรับชะตากรรมของแสงดาว ก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายจากไป ส่วนพ่อเลี้ยงเองในวันที่ไปพบนั้นก็เหมือนจะถูกผีแสงดาวหลอกจนเสียสติ ถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องส่วนทว่าอีกสองคนทำอย่างไรนั้น ก็เหมือนเป็นปริศนา เพื่อนผู้ชายตัดสินใจทำพิธีลงไปนอนในโรงตามคำแนะนำของหลวงพ่อแล้วก็หายจากการติดต่อไปเลย ส่วนพิมพ์ผู้หญิงคนสุดท้ายที่เป็นคนเล่าเรื่องในหนังนี้ก็มาอยู่ที่สถานีตำรวจ โดยตำรวจก็ซักถามพร้อมกับข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องแต่งหรือไม่ หรือสาเหตุการตายนั้นเป็นมาจากอาหารหลอนจากการเสพยากันแน่ เพราะไม่มีข่าวเกิดขึ้นเลยแต่ทว่าผีแสงดาวเหมือนยังอาฆาตแค้น จนสุดท้ายก็เล่นตำรวจมันด้วยเลย จบ
ส่วนตัวความน่ากลัวของหนังถูกลดทอนลงไปจากความคมชัดที่เหลือเพียง 360 และซีจีต่าง ๆ ที่พอเทียบกับปัจจุบันแล้วรู้สึกว่าผีน่ากลัวน้อยลงมาก ส่วนจังหวะจะโคนและการเล่าเรื่อง ก็ไม่ได้น่ากลัวมาก ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนดูหนังผีค่อนข้างเยอะเลยใจแข็ง
ส่วนตัวค่อนข้างไม่โอเค กับการทำให้ผีแสงดาวกลายเป็นผู้ถูกกระทำ กลายเป็นผีอาฆาตแล้วจะตามฆ่าล้างใครก็ได้ แต่ดันไม่ไปฆ่าฆาตกรที่ทำกับตัวเองไว้ สงสารคนไม่รู้เรื่องที่ต้องมากลายเป็นคนรับเคราะห์
สรุปสุดท้าย ผีช่องแอร์เป็นหนังผีดูเพลิน ถ้าให้คะแนนตอนนี้ก็ต้องให้แค่ 5/10 กลาง ๆ เพราะการเล่าเรื่องตัดฉับไปมา ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ไม่ชอบการเล่าเรื่องในลักษณะนี้ ส่วนใครอยากหาข้อมูลผีช่องแอร์เพิ่มเติม ลองหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้เลยครับ เพียบ
ป.ล. ดูจนจบเพิ่งสังเกตว่าพิมพ์หน้าเหมือนป๊อก ปิยธิดา พิธีกรรายการมาสเตอร์เชฟ จนไปหารายชื่อคนแสดงก็พบว่าคือคนเดียวกัน ส่วนนักแสดงคนอื่นหน้าตาไม่คุ้นเลย
สำหรับคลิปด้านล่างเป็นคลิปรายการเดอะช็อคที่มีคนมาเล่าให้ฟัง คุณบิว เล่าเรื่องสมัยที่ตนเองเป็นนักดนตรีที่หาดใหญ่ ในช่วงปี 2534-2535 ไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่สายสอง ไปพักระหว่างเล่นดนตรี ห้อง 409 ชั้น 9 จนมือกีตาร์หันไปเห็นช่องแอร์มีผ้าไหว ๆ อยู่ แล้วเลยไปลองดึงออกดู กลายเป็นว่าสายผ้ายาวลงมาเรื่อย ๆ จนเกือบถึงพื้น หลังจากนั้นมือกีตาร์ก็ไปปลดแผ่นช่องแอร์ออกมา ขณะที่แกะออกมาเขาก็หยุดชะงักหันหน้าไปทางช่องแอร์ แล้วหันมาบอกเพื่อนว่าไปแล้วนะ ก็เดินออกไป
เพื่อนอีกคนก็ติดใจ แหงนดูช่องแอร์ก็ชะงัก แล้วก็เดินตามออกไป อีกสองคนก็เดินไปดูที่ช่องแอร์ ก็เหมือนกันในจังหวะที่หันหน้าแหงนไปดูช่องแอร์ แล้วมีอาการกลัวแล้วขอตัวเดินออกไปเช่นกัน จนคนเล่ากับน้องอีกคนนึงเดินไปดูในช่องแอร์ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดขาวพร้ิว ๆ นั่งอยู่บนช่องแอร์ ก้มหน้ามองพวกเขา กลายเป็นว่าอึ้งกันมาก ไม่อยู่แล้ว
จนลงไปข้างล่าง แล้วขอคุยกับแม่บ้าน แล้วลองถามเกี่ยวกับชั้นเก้า แม่บ้านก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านั้นประมาณปีกว่า มีผู้หญิงถูกออฟขึ้นไปแล้วถูกฆ่าตัดคอแล้วเอาหัวไปแขวนในช่องแอร์ ตำรวจมาเจอตัว ส่วนหัวอีก 3-4 วันถึงจะเจอ หลังจากนั้น สามวันเจ็ดวัน เป้มือกีตาร์เอาปืนกรอกปากฆ่าตัวตาย ห้าวันต่อมา มือกลองกินยาตาย ห่างอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ อีกคนขับรถเร็วชนตาย อีกคนกระโดดน้ำตาย จนตอนนี้เหลือแค่คนเล่า กับน้องอีกคนไปอยู่อเมริกา
ส่วนตัวคนเล่าก็กลัว เคยไปหาพระที่นครสวรรค์ พระบอกว่าพยายามอย่าไปนึกถึงเขา เพราะจิตผู้หญิงคนนี้อาฆาตแรง ใครก็ตามที่นึกถึงเขาเขาก็จะไปหาได้ตลอด คุณบิวคนเล่าไปแก้โดยการลงไปนอนในโลงผีตายโหง จนสุดท้ายนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น