วันนี้เป็นบุญปากที่ได้กินขนมชั้นสูง ไดฟูกุ ที่ฟังชื่อแล้วน่าจะมีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นดินแดนลูกพระอาทิตย์ ซึ่งเจ้าขนมนี้ปกติผมจะกินในร้านบุฟเฟต์เป็นหลัก ไม่ค่อยได้ซื้อมากินแยกเดี่ยว ๆ แบบนี้ โดยเฉพาะไดฟูกุในร้านโมโม่ ร้านชาบูอันดับหนึ่งในดวงใจ (Mo-Mo-Paradise) ที่กินเสร็จแล้วต้องตบท้ายด้วยไดฟูกุกับไอศครีมเป็นธรรมเนียมที่ขาดไม่ได้
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Happy Workplace แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Happy Workplace แสดงบทความทั้งหมด
วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562
Swensen's | 1 แถม 1 มะม่วงทรีโอ้ + มะม่วงบราโว่ ราคารวม 179 บาท
พอถึงเวลาจริง ก็รีบกินข้าวรีบลุกกันสุดชีวิต ตอนนั้นประชุมอยู่ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี สถานที่เป้าหมายอยู่ที่ บิ๊กซี ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งในปัตตานี (!!!) Swensens จ๋าาา พี่มาแล้ว
วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
นั่งชิวกินกือโป๊ะริมแม่น้ำ ขึ้นสะพานเฉลิมพระเกียรติ ชมวิวเมืองปัตตานี
เมือวานได้มีโอกาสไปนั่งชิวหลังจากเลิกงาน (อีกแล้ว) กับน้องดีนและน้องตี้ผู้น่ารัก จากเป้าหมายเดิมที่อาทิตย์ก่อนหน้านี้คือการวิ่งรอบสวนสมเด็จ แต่มาอาทิตย์นี้กลายเป็นชวนกินนั่งชิว ... ก็หวังว่าจะผอมกันทุกคนนะ 555
สถานที่ที่เราไปนั่งชิวกันคือ ริมแม่น้ำปัตตานี ที่เมื่อวันก่อนไปเดินชมพระอาทิตย์ตกกัน (ชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบหลังมอ) แต่วันนี้เราไม่เดินไปแล้ว อาศัยรถเครื่องไปแทน จากนั้นก็หาซื้อกือโป๊ะทอด ลูกชิ้นปิ้ง เครื่องดื่มเล็กน้อยพอปาร์ตี้กันเล็ก ๆ ซึ่งบริเวณข้างถนนมีสามล้อจอดขายเต็มเลย กิจกรรมอีกอย่างที่สามารถทำได้คือระบายสีตุ๊กตาปูนปั้น ใครมีลูกมีหลานก็พาไปได้
ข้อสังเกตอีกอย่างคือบริเวณนี้ไม่มีถังขยะเลย ใครที่ซื้อของกินจากร้านค้าเคลื่อนที่ ก็ต้องพยายามเก็บขยะกลับไปคืนเจ้าของนะครับ เขาจะมีถังขยะเตรียมไว้ให้ ไม่ควรปล่อยทิ้งเรี่ยราด เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
นั่งกันสักพักจนสังเกตว่าแดดร่มลมตกดีแล้ว แดดไม่ร้อนมาก ก็ได้ฤกษ์ไปเดินขึ้นสะพานเฉลิมพระเกียรติที่ขับรถผ่านกันเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยเดินขึ้นไปเลยว่าบรรยากาศข้างบนเป็นอย่างไรบ้าง
ทางขึ้นบนสะพานเป็นบันไดอย่างดีมีราวกั้น ไม่อันตรายเหมือน skywalk ใครที่กลัวความสูงเหมือนผมก็สามารถขึ้นได้สบาย ๆ เลยครับ ขึ้นไปช่วงหกโมงเย็นแบบนี้ ภาพที่เก็บได้ออกมาสวยมากทีเดียวครับ ทั้งบรรยากาศปากแม่น้ำปัตตานี กับบรรยากาศในตัวเมือง
ลองไปชมภาพกันได้เลย เป็นอีกวันที่ได้บรรยากาศดีดี และภาพสวย ๆ กลับมาครับ
เลือกซื้อกือโป๊ะ กับลูกชิ้นปิ้งกัน |
ของอร่อยมักจะไม่ดีต่อสุขภาพเสมอ |
ได้มาแล้วกับกือโป๊ะร่วมสาบาน ว่าจะอ้วนด้วยกันตลอดไป |
หน้าตาทีมกินที่มาจากทีมวิ่ง (มือสั่นอีกแล้ว) |
ใกล้ ๆ กันกับที่เรานั่งก็มีเจ้าถิ่นมานั่งด้วย โหยหาความรักความเมตตาเป็นลูกชิ้นปิ้ง |
วันหลังตั้งใจว่าจะเอาแก้วเอาจานมาเอง เพราะมีขยะเกิดขึ้นเยอะมาก อีกอย่างกินเสร็จแล้วพวกเราก็พาไปทิ้งนะครับ |
บรรยากาศจากที่ที่พวกเรานั่งกินกือโป๊ะกัน |
ทางขึ้นมั่นคงแข็งแรงมาก ดูไม่สูง แต่เล่นเอาหอบเหมือนกัน |
เล่นใหญ่รัชดาลัยอีกแล้ว สำหรับคนสวยของเรา |
ทางเดินระหว่างขอบถนนกับสะพานนับว่ากว้างพอที่จะให้สองคนเดินสวนกันได้ |
![]() |
บรรยากาศอีกด้านหนึ่งของสะพานที่หันเข้าหาตัวเมือง |

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ดีน่าริมเล | ปูเสื่อกินส้มตำใต้ร่มไม้ริมหาดสะมิแล
วันนี้หลังจากทำงานกันอย่างหนักด้วยการขนของและทำลายของพวกเอกสารที่เก่าเก็บค้างปี ด้วยคติที่กลุ่มงานเรายึดถือมาตลอดคือกองทัพต้องเดินด้วยท้อง จนท้องเกือบจะห้อยลงมาถึงเท้าแล้ว จึงได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเราควรไปหาของอร่อยทานกันเพื่อเพิ่มพลังงานที่เสียไปอย่างมหาศาล
โจทย์ที่ได้คือ ใกล้ที่ทำงาน ชิวได้ ราคาไม่แพง และกินได้ทุกคน เลยเลือกที่จะไปร้านอาหารริมหาดสะมิแล ซึ่งริมหาดทั้งหาดมีแต่ร้านส้มตำ เวลาไปทานอาหารแถวนี้ก็จะขับรถเวียนอยู่อย่างน้อยไปกลับหนึ่งรอบแล้วสุ่มร้านที่จะกิน
วันนี้ก็เช่นกัน ร้านที่โดนสุ่มเป็นผู้โชคดีที่รับลูกค้าจำนวน 11 คน คือร้าน ดีน่าริมเล ซึ่งเราก็ได้นั่งกินริมเล สมใจเลย ทานกัน 11 คน ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ค่าเสียหายทั้งหมด 1980 บาท ตกคนละ 180 บาทพอดิบพอดี แต่ช้าก่อนเรามีผู้ใจบุญคือ พี่จ๊ะ รศนา และพี่นิดสุนิสา ที่เลี้ยงอาหารกลางวันเราในมื้อนี้ให้ทุกคนอิ่มหนำสำราญ
ขอบคุณพี่ทั้งสองในบทความนี้อีกครั้ง ส่วนเงินที่เราเก็บกันคนละ 180 ในวันนี้ก็จะเข้ากองทุนอาหารกลางวันเก็บไว้เลี้ยงตอบแทนพี่ทั้งสองคนในโอกาสต่อไป คาดว่าเราจะได้ไปที่ร้านแมร์รี่บราวน์ ร้านไก่ทอดร้านใหม่ และร้านไอศครีมสเวนเซ่น ที่ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งในปัตตานี บิ๊กซี
ดีน่าริมเล ร้านจากฟากตรงข้ามถนน ที่ไม่ทันจอดรถพี่พี่ก็เดินออกกันมาด้วยความประสงค์จะนั่งกินที่ชายหาด |
บริเวณหาดที่ไม่ใช่หาดทรายตรงนี้น่านั่งมาก เพราะมีต้นไม้ให้ร่มเงา มีลมโชยพัดมา |
ร่มเงาก็ประมาณนี้ และทางท้องถิ่นกำลังปลูกต้นสนอีกแถวนึงที่ถัดออกไป ขอให้โตไวไว คราวหน้ามาจะได้อาศัยร่มเงา |
ระหว่างที่รออาหาร ก็ชมวิวทะเล วิวแหลมตาชีที่เห็นไกลลิบไปพลาง ๆ |
เมนูของร้านมาเป็นกระดาษแผ่นเดียว เราสั่งทุกอย่างคูณสอง มีเพิ่มบ้างเมื่อจำเป็น |
นั่งล้อมวงกันก็จะได้ประมาณนี้ พออาหารมาถึงก็แยกเป็นสองวงอัตโนมัติ |
![]() |
คนถ่ายคือข้าเองมือสั่นมาก สั่นจนกล้องไอโฟนไม่ช่วยอะไร แต่ขอลงเพราะเป็นภาพที่พร้อมหน้าพร้อมตาที่สุดของกลุ่มงานเรา |
อาหารเริ่มทะยอยมา หอยแครงลวกอร่อย สุกกำลังดี เป็นจานนึงที่สั่งเพิ่ม ส่วนเสือร้องไห้จานบน นี่ร้องไห้หนักมากเพราะไขมันเยอะ ต้องวิ่งกี่กิโลถึงจะเอาออกหมด |
ไก่ย่างอร่อย นานแล้วที่ไม่ได้กินรสชาติแบบนี้ |
ยำปลาดุกฟู คลุกเคล้าให้เข้ากัน อร่อยน้ำลายไหล |
ข้าวผัดธรรมดา แต่กินได้ไม่ติดอะไร |
หมึกไข่นึ่ง แต่จานที่ได้มาไม่มีไข่เลย เสียชื่ออาหาร |
ตำมะม่วงบูดู หรือตำบูดูมะม่วง ได้มาแค่มะม่วงกับน้ำบูดูจริงจริง เหมือนประชดหมึกไข่นึ่งที่เราบ่นกันไป |
ทุกคนมันในอารมณ์ |
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ปัตตานี | เดินออกกำลังกายทะเลหลังมอ ดูพระอาทิตย์ตกดินที่หาดรูสะมิแล
ปกติตอนเย็นหลังเลิกงานก็มักจะชวนน้อง ๆ ในฝ่ายไปเดินวิ่งที่สวนสมเด็จ ใกล้ที่ทำงาน แต่ทว่าวันนี้มีความพิเศษ เนื่องจากเป็นวันบิ๊กคลีนนิ่งทุกคนช่วยกันทำความสะอาดจนปวดน่องหมดแล้ว เลยชี้ชวนกันไปเดินเล่นเลียบทะเลหลังมอ โดนเดินจากที่ทำงานไปได้เลย
เดินออกจากสำนักงานเดินทะลุเส้นทางลัดติดกับสนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี ทะลุไปยังสวนสมเด็จ แต่วันนี้เราจะเดินออกไปยังท่าเรือ จากถนนหน้าสวนสมเด็จเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก
ถนนหน้าสวนสมเด็จ |
เดินมาจนสุดปลายถนนเราจะเจอท่าเรือที่มีเรือจอดอยู่มากมาย ถ่ายรูปได้ตามใจ |
บรรยากาศตอนเย็นแบบนี้ ก็จะมีกลุ่มครอบครัวเพื่อนฝูงมานังผ่อนคลายกันที่ท่าเรือ ซึ่งบรรยากาศก็ดีมาก มีอาหารขายริมทางด้วย ใครหิวก็ซื้อกิน |
ภาพที่ได้จากท่าเรือ |
ชอบเรือลำนี้เป็นพิเศษเพราะดูโดดเดี่ยวไม่เกาะกลุ่มจอดรวมกับใครเขา |
สัมผัสได้ถึงความสงบจากในภาพ แต่ไม่รู้พอไปถึงอีกฝั่งจะสงบหรือวุ่นวาย |
เดินเลียบท่าเรืออกมาสักพันเราจะเห็นมีคันดินที่น่าจะเกิดจากการทับถมกัน ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีขยะมาติดอยู่เยอะมาก |
ขยะที่มาติดอยู่ที่มุมหนึ่งของใกล้ ๆ ท่าเรือ จากบริเวณที่มีคนนั่งพักผ่อนอยู่ไม่ไกล |
ทางเดินที่กำลังสร้างให้เชื่อมจากท่าเรือลงไปสะพานที่ทอดลงไปยังทะเล |
ทางเดินยังเป็นสะพานเปล่า ๆ ไม่มีราวกั้น มีเสาไฟแต่ไม่ทราบว่าใช้การได้หรือไม่ ตอนกลางคืนคงน่ากลัวไม่น้อย |
โพสต์ท่ากันหน่อย |
พอเดินไปสักพัก สะพานหรือทางเชื่อมที่ไปอยู่จะสิ้นสุดลงไม่สามารถไปต่อได้ ให้ลงมาเดินตรงถนนข้างล่าง ซึ่งทางจะขรุขระ ถ้าฝนตกคงจะเปรอะไม่น้อย แนะนำให้เดินบนถนนใหญ่ดีกว่า |
บรรยากาศที่เราเจอเมื่อเดินมาจนสุดปลายทางของถนนจะเห็นทะเลและสะพานที่ทอดยาวลงไป |
ข้าง ๆ ถนนที่เราเดินกันมาจะเป็นเนินดินกั้นอยู่ ซึ่งหลักเนินดินจะเป็นผืนดินที่แตกระแหงซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ก็ลงไปเก็บรูปกันมาพอประมาณ |
ดินที่แตกระแหง |
เซลฟี่กันครับ ไม่สามารถถ่ายเต็มตัวได้เพราะติดพุง |
สะพานมีความกว้างพอประมาณให้คนสองคนเดินสวนกันได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ควรเดินคนเดียวดีกว่า ผมที่กลัวความสูงก็เดินขาสั่นกันไป |
บรรยากาศที่ถ่ายได้จากสะพาน ลมแรงมาก คนตัวเล็ก ๆ อาจจะปลิวได้ |
ลองถ่ายโหมดพอร์ตเทรตของไอโฟนเอ๊กซ์ |
ลองถ่ายพาโนรามาจะเห็นพระอาทิตย์ตกดิน และ อีกด้านนึงที่เริ่มมืดแล้ว |
หัวฟู แต่แฮปปี้มาก |
สะพานที่ทอดยาวลงไปในทะเล |
ใครมีแฟนควรพาแฟนมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ |
จังหวะเผลอ ๆ 1 |
จังหวะไม่เผลอ 2 |
มีเวลาสักนิดก็มานั่งซึมซับบรรยากาศที่นี่ได้ |
ระยะทางที่เดินได้ของวันนี้ 6.38 km |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)