วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564

สงขลา - หาดใหญ่ หยุด 6 วัน ทำอะไรไปบ้าง

บันทึกไว้ครั้งหนึ่งในความทรงจำว่าเคยลางานสามวัน ต่อจากวันหยุดสามวันรวมเป็น 6 วัน เพื่อไปพักผ่อนแถวหาดใหญ่ กับสงขลา ซึ่งจากทั้งปีที่ไม่ค่อยลาหยุด เพราะโควิด จนสถานการณ์มาดีขึ้นคลายล็อกในช่วงเดือนกันยายนที่สามารถนั่งกินในร้านอาหาร ประกอบกับเดินทางข้ามจังหวัดได้โดยไม่มีด่านตรวจ ช่วงปลายเดือนกันยายนจึงตัดสินใจลาหยุด เพื่อผ่อนคลายตัวเองจริงจัง

เริ่มจากวันที่ 24 กันยายน 64 เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันมหิดล ซึ่งปกติแล้วจะมีการทำพิธีของทางสำนักงาน แต่เนื่องจากโควิด พวกพิธีการสิ้นเปลืองต่าง ๆ เหล่านี้ก็หมดไป กลายเป็นวันหยุดให้คนทำงานได้พักผ่อนแทน ตอนนั้นขับรถออกจากปัตตานีประมาณเก้าโมงเช้า ขับถึงร้านสตาร์บัคที่โอเดียนหาดใหญ่ประมาณ 11:30 น. ก็นั่งทำงานรอเพื่อนวนไป ทำงานแบบชิวชิวส่งความคืบหน้าให้หัวหน้าดู ไม่เครียด กินกาแฟไปหนึ่งแก้วนั่งเกือบสองชั่วโมงกว่าเพื่อนจะมา

เราไปกินมื้อเที่ยงกันที่ร้านใกล้ ๆ คือ ร้านถนัดศรี ที่ส่วนตัวกับเพื่อนแล้วปอเปี๊ยะสดอร่อยที่สุดในหาดใหญ่ กับพวกลูกชิ้นลวกจิ้มเนี่ยอร่อยจริง ก็กินกันไปคนละถ้วยพร้อมของกลางที่เป็นลวกจิ้ม อร่อยมาก แต่กินแล้วทั้งสองคนรู้สึกว่าต้องกินน้ำตามเยอะหน่อย 

ปอเปี๊ยะสดปอเปี๊ยะสด

อิ่มแล้วก็ขับรถไปไกลถึงสงขลาเนื่องจากกลัวว่าไม่มีอะไรจะทำกันกัน เลยขับรถไปสงขลาฆ่าเวลา หาร้านกินกาแฟสักแก้ว ขับรถเวียนหาดสมิหลานิดหน่อยแล้วค่อยกลับ จากตอนแรกจะไปร้าน The Secret Garden ที่เค้กอร่อยมาก ก็ตกลงเดินไปร้านใกล้ ๆ กันแทน คือ Heartmade Coffee And Eatery สงขลา เป็นคาเฟ่น่ารัก ๆ บรรยากาศอบอุ่น กาแฟอร่อย เบเกอร์รี่ก็อร่อย ไปลองกันได้เลยนะครับ ส่วนราคาก็แรงตามทำเลเลย เสร็จแล้วก็ขับรถกลับกันแยกย้าย ก่อนซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านถนัดศรีกลับไปกินที่ห้องอีกรอบ

คาเฟ่เมืองเก่าสงขลาสโคน

โดยที่พักที่เลือกตลอดทั้ง 6 วันนี้คือ The Smart Hotel Hatyai ที่เคยรีวิวไปแล้ว (คลิก) ส่วนตัวคิดว่าโรงแรมนี้ดีพอใช้เลย เพราะราคาตกประมาณคืนละ 500 กว่าบาท ไม่มีอาหารเช้าให้ แต่ไม่เป็นไรเพราะเราออกไปกินข้างนอกอยู่แล้ว ห้อง 503 ที่ไปอยู่แอร์เย็นมาก เพราะรีโมทถ่านอ่อนเลยไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ จนวันสุดท้ายแล้วถึงจะรู้จักเอาถ่านรีโมททีวีมาเปลี่ยน ค่อยใช้ชีวิตได้เหมือนมนุษย์หน่อย ไม่ต้องห่อตัวในผ้าห่มตลอดเวลา

โดยเช้าวันต่อมา 25 กันยายน วันนี้เป็นวันเสาร์ มีคิวสอนออนไลน์นักศึกษาวิทยาลัยชุมชนปัตตานี ด้วยความอยากออกไปทำงานเตรียมสไลด์สอนร้านกาแฟเก๋ ๆ แต่ไม่รู้ไปร้านไหนดี จึงตกม้าตายไปนั่งที่ร้านสตาร์บัคโอเดียนอีกรอบ เพราะตอบโจทย์ที่นั่งได้นาน ถึงแม้จะกินกาแฟแค่แก้วเดียว แต่ถ้าไปคาเฟ่ร้านอื่นที่คนเขาฮิตกันถ่ายรูปลงอินสตาแกรมก็น่าจะนั่งนานไม่ได้ เกรงใจทั้งลูกค้าท่านอื่นและเจ้าของร้าน ซึ่งก่อนกลับจะมาสอนออนไลน์ที่ห้องพักตอนบ่าย ผมก็ซื้อพายแอปเปิ้ลกลับมาด้วย ถึงแม้หน้าตาจะน่ากิน แต่พอกินแล้วก็บอกได้เลยว่าคงไม่กินอีกแล้ว เกินพอ


สรุปว่าวันนั้นกว่าจะสอนเสร็จก็บ่ายสามโมงกว่าเกือบสี่โมงเย็น ชวนเพื่อนไปหาร้านอะไรกินกันหน่อย ซึ่งจากการเลือกไปมาจากรีวิวหน้าไอจี ก็มาตกที่ร้านบัวหลวง ร้านเก่าแก่ที่ขายอาหารไทยจีนเฉพาะตอนเย็นเท่านั้น ร้านเปิดประมาณสี่โมงครึ่ง ปิดประมาณสามทุ่ม แต่ช่วงโควิดนี้น่าจะปิดเร็วหน่อย เราตกลงจะไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย โดยร้านบัวหลวงจะอยู่แถว ญว. ขับเข้าตรงซอยสยามนครินทร์ ตรงไปประมาณสองสามร้อยเมตรก็จะเจอร้านอยู่ทางขวา โดยไปเจอกับเพื่อนก็น่ารักมาก สั่งอาหารกันสี่อย่าง อันแรกเหมือนจะเป็นยำเป็ดกรอบ ผักเหลียงผัดไข่ แกงส้มกุ้งไข่ชะอม กับเมนูสุดท้ายไข่เจียวหมูสับ ที่เพื่อนอยากกินมาก ต้องสั่ง เสร็จแล้วก็ลงมือรับทานกันอย่างเมามันพร้อมกับพูดคุยตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานเกือบสี่เดือนเพราะโควิด

ยำเป็ดกรอบผักเหลียงผัดไข่

แกงส้มกุ้งชะอมไข่ไข่เจียวหมูสับ

หาดใหญ่

กินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับ เพื่อนก็กลับบ้าน ผมก็กลับห้องพัก แยกย้ายกันไม่ร่ำไร และวันเสาร์นี้ก็คงเป็นวันสุดท้ายที่เจอเพื่อนสำหรับทริปนี้ ส่วนตื่นมาเช้าอีกวันก็เป็นวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน แล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรนอกจากพาน้องชายไปกิน MK ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ไม่ได้กินนานมากเหมือนกัน โดยวันนี้เอมเคมีชุดเซตต้มยำ น้องชายก็เลยสั่งเซตนั้นไป รวมกันหมี่ และเป็ดย่างหมูกรอบจานเล็ก ตกราคามา 700 กว่าบาทยังแรงเหมือนเดิม แต่รสชาติก็เป็นอะไรที่เราคุ้นเคย ไม่มีอะไรให้ผิดหวัง เพราะไม่ได้คาดหวัง สิ่งที่ดีที่สุดจากการได้กินเอมเคคือการได้คุยกับน้องชายมากกว่า เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับไปนอน ชิวจริงจริง

เป็ดย่างหมูกรอบจานเล็กหมี่หยก

เซตต้มยำชุดผัก

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 64 แอบไปซื้อหนังสือที่ B2S จากที่ตั้งใจว่าจะไม่ซื้อหนังสืออีกแล้ว Tiny Habits เล่าถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมที่ละเล็กละน้อยให้ประสบความสำเร็จ ก็อ่านไปได้ประมาณ 120 หน้าจากนั้นก็แวะไปซื้อเสื้อผ้าที่ยูนิโคลเกือบสองพันบาท ทั้งที่หยิบไม่กี่ตัวเอง จากนั้นก็ขับรถไปสงขลารับน้องชายมานอนด้วยก่อนที่มันจะไปฉีดวัคซีนเข็มสองแอสตร้าเซเนก้าที่เซนทรัลเฟสชั้นห้า บ่ายโมงวันที่ 28 แต่จังหวะตอนไปรอน้องกลับจากทำงานก็ไปนั่งกินกาแฟที่ร้าน EP แถวหาดสมิหลา ร้านสวย บรรยากาศดีมาก 



น้องโทรมาก็ไปรับน้องที่หอพักใกล้ ๆ ขับรถห้านาทีถึงแล้ว แต่น้องดันยังไม่กินอะไรมาเลย ก็เลยต้องพาไปหาอะไรกินที่หาดใหญ่ ซึ่งความขี้เกียจส่วนตัวบวกกับอยากกินร้านถนัดศรีอีกแล้ว ก็เลยไปกินร้านเดิมอีก ซึ่งรอบนี้หมูชิ้นลวกจิ้ม สั่งเหมือนกันแต่ให้มาไม่เหมือนเดิม คราวนี้มีกระเทียมเจียวด้วย งงมาก แต่ก็ไม่ได้ถามป้าคนทำก๋วยเตี๋ยวเพราะท่าทางไม่สบอารมณ์มาก ส่วนทางนี้ก็เลยนั่งกินให้มันจบจบไป ต่อด้วยร้านนมสดป้าแอ๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ไม่ได้กินนานก็รสชาติเหมือนเดิม


กลับห้องนอน เตรียมตัวน้องชายไปฉีดวัคซีนพรุ่งนี้ 28 กันยายน เช้ามาก็อยากกินติ๋มซำ ที่อาม่าติ๋มซำ ไม่แน่ใจว่าเป็นวันทำงานหรือเปล่าคนถึงน้อยกว่าปกติ เสร็จแล้วก็กลับห้องไปนอนต่อ จนใกล้บ่ายโมงก็ได้ฤกษ์ไปฉีดวัคซีนกันแล้ว รอประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าก้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็พาน้องกลับสงขลา ตอนแรกกะว่าจะให้รีบกลับไปนอนพัก แต่น้องชายบอกว่าไม่เป็นอะไรเลยไปหาข้าวกินกันก่อน ไปจบที่ร้าน Joe Delicious  ถนนนางงามเมืองเก่าสงขลา สั่งอาหารกินกันสองสามอย่างล้วนเป็นอาหารทะเลทั้งนั้นเลยสนองความอยากของพี่มัน แต่น้องชายบอกว่ากินแล้วเลี่ยนมากต้องไปหาไอติมกินกัน ตอนแรกอยากไปกินไอติมโอ่ง แต่เวียนรถหาไม่เจอเลยพากันไปกินไอติมโคม ที่ถือว่าได้แหละ 555



ต่อมาวันสุดท้าย เช็คเอาท์ตอนสิบโมงกว่า ก็ไม่อยากไปไหนต่อแล้ว คิดถึงปัตตานีอยากกลับก็ขับรถกลับเลย แวะซื้อขนมโกไข่นิดหน่อยไปฝากพี่ร่วมหอพัก จากนั้นก็เสียเวลาไปรออเมซอนอยู่ประมาณสี่สิบนาที เลยกลับถึงปัตตานีช้ากว่าที่คิดไว้ ตอนถึงห้องแล้วกำลังจะเก็บของน้องที่ทำงานโทรมาบอกว่าหัวหน้าผล ATK เป็นบวก ให้ทุกคนในฝ่ายไปตรวจ ATK ด้วยก็เลยได้ไปตรวจ ลุ้นมากว่าจะเป็นไหม ถ้าเป็นแล้วจะทำยังไง แต่สุดท้ายผลออกมาเป็นลบเลยสบายใจไป ปิดท้ายวันหยุดยาวหกวัน





ไม่มีความคิดเห็น: