"ออกซิเจน" หนังวิทยาศาสตร์ไซไฟเล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาใน ตู้แช่แข็ง (Cryogenic Chamber) ซึ่งในหนังหมายถึงตู้ที่ทำการแช่แข็งคนไว้เป็น ๆ เพื่อทำให้อยู่ในภาวะเสมือนตาย ก่อนที่จะทำการปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งหากในทางการแพทย์ปัจจุบันเรามักจะได้ยิน คำที่คล้ายกันคือ Cryotherapy การรักษาด้วยไอเย็น ซึ่งในไทยตอนนี้ไม่ได้ถือเป็นการรักษา แต่มีใช้ในคลินิกเสริมความงามมากกว่า เท่าที่หาข้อมูลเหมือนจะมีที่ APEX Medical Center (คลิก) ซึ่งสรรพคุณก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลครับ
ซึ่งผู้หญิงคนนี้เจ้าของตู้หมายเลข 627 ตื่นขึ้นมาก่อนที่ยานอวกาศจะถึงปลายทาง แต่ในหนังตอนเริ่มต้นเขาจะไม่บอกว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ไหน ซึ่งตัวเธอเข้าใจว่าถูกลักพาตัวมาเก็บไว้ในตู้แช่นี้และตอนนี้เธออยู่ใต้ดิน ซึ่งสาเหตุที่เธอตื่นขึ้นมากลางคันก็เพราะระบบของตู้แช่ของเธอบางส่วนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ออกซิเจนในตู้ของเธอลดลงไปเรื่อย ๆ และถ้าหากเธอแก้สถานการณ์ไม่ได้นั่นหมายถึงความตายในท้ายที่สุด
หนังทำให้เราเห็นความสับสน ความกดดัน และการพยายามหาทางเอาชีวิตรอดของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตื่นขึ้นมาด้วยความทรงจำที่ว่างเปล่า ถึงแม้เธอจะสามารถจำขึ้นมาได้ทีละน้อยในภายหลัง แต่นั่นก็ทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด เธอจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร เธอเห็นเพียงภาพของเธอถูกเข็นเข้าโรงพยาบาลเท่านั้นก่อนที่เธอจะหมดสติลง
เธอพยายามโทรหาคนที่เธอรู้จัก โทรหาตำรวจ ตำรวจก็บอกเธอว่าตู้ที่เธอนอนอยู่นั้นถูกบริษัททำลายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน โทรหาคนรัก แต่กลับมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้รับสายและบอกให้เธอไม่ต้องโทรมาอีก จนตำรวจโทรกลับมา แต่เธอก็สงสัยว่าตำรวจปกปิดเรื่องราวบางอย่างที่สำคัญกับเธอ และไม่ต้องการช่วยเธอออกไปจากที่นี่ จนสุดท้ายเธอโทรหาแม่และบอกแม่ว่าเธอรักแม่ ก่อนที่จะฮึดสู้อีกครั้ง
เมื่อความทรงจำของเธอเริ่มกลับมา พร้อมกับการกระตุ้นเตือนจากคนที่เธอไม่รู้จักทางโทรศัพท์ ทำให้เธอค่อยค่อยรับรู้ความจริงบางอย่าง ความจริงที่ทำให้เธอไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ตลอดไป เธอไม่ได้อยู่บนโลก เธอถูกทำให้จำศีลและอยู่ระหว่างการเดินทางไปดวงดาวปลายทาง เพราะโลกมนุษย์ไม่สามารถอาศัยได้อีกต่อไปแล้ว แต่เธอถูกบังคับให้ตื่น และสาเหตุเป็นเพราะการพุ่งชนกับดาวเคราะห์น้อยในอวกาต จนเป็นเหตุให้เธอต้องตื่นขึ้นมาในสถานการณ์ที่เธอไม่สู้ก็ตาย แต่เธอยังโชคดีที่ตื่นขึ้นมาในอาณาเขตที่ยังสื่อสารกับโลกมนุษย์ได้ จนเธอได้รับเบาะแส และแก้ไขสถานการณ์ได้ในที่สุด
ถึงแม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าตอนจบของหนังเรื่องนี้เธอจะรอดชีวิต แต่ระหว่างทางของหนังทำให้เราได้รู้สึกอิ่มเอมไปกับความกดดันของตัวละคร การต่อสู้ ความลับ และฉากที่ไม่คาดฝัน จนผมยกใหเป็นหนังที่เซอร์ไพรส์เรื่องหนึ่งของผมในปีนี้เลย
คุ้มค่าที่ได้ดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น