ซีรีส์คดีฆาตกรรมที่สยองขวัญที่สุดในยุคหนึ่งของนิวยอร์ก Son of Sam นำเสนอเรื่องราวการขุดคุ้ยของนักข่าว เมารี่ เทอร์รี่ Maury Terry กับคดีที่เรียกได้ว่าเขาใช้เวลาครึ่งชีวิตไปกับการตามหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี 1977 มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นในนิวยอร์กแบบไม่มีเหตุจูงใจ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการสุ่ม โดยเป้าหมายมักจะเป็นผู้หญิงผมบลอนด์ยาวผิวขาว ที่อยู่ในรถกับแฟนกลางดึก โดยฆาตกรจะเดินเข้าไปยิงจากด้านข้างของรถ ในระยะเวลา 11 เดือน มีคนถูกฆาตกรรมไปประมาณ 7 คน
ซึ่งทำให้สังคมนิวยอร์กตอนนั้นเกิดความกลัวจนถึงขนาดทุกคนไม่กล้าออกไปกับแฟนตอนกลางคืน วันไหนที่คาดว่าฆาตกรจะลงมือก็จะไม่มีคนออกไปเที่ยวกันเลย สำหรับผู้หญิงนั้นถ้าใครผมบลอนด์ก็จะไปย้อมดำ ใครผมยาวก็ไปตัดสั้น นับว่ากระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวเมืองประมาณ 10 ล้านคนเป็นอย่างมาก
ผ่านไปปีกว่า ตำรวจได้เบาะแสและนำมาซึ่งการจับกุม เดวิด เบอร์โกวิตซ์ ซึ่งตอนถูกจับเขาพูดเลยว่าเขาคือ Sam of Son ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดีสำหรับคดีนี้ แต่อดีตบรรณาธิการนิตยสารภายในของบริษัทไอบีเอ็ม เมารี่ เทอร์รี่ คิดว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านี้ เพราะหลักฐานก่อนหน้านี้ในช่วงหนึ่งปีที่เขาติดตามคดีนี้ เขาคิดว่าน่าจะมีคนร้ายมากกว่าหนึ่งคน เพราะภาพสเก๊ตของคนร้ายสองสามรอบไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง มีคนพบรถคันสีเหลือง แต่รถของเดวิดกลับไม่ใช่ เป็นต้น
ทำให้เขาพยายามรวบรวมหลักฐาน และผู้เกี่ยวข้องกับเดวิด ที่ถูกจับอยู่ในคุกตอนนั้น แต่กลับพบว่าทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับเดวิดกลับถูกทำให้ตายด้วยอุบัติเหตุหรือไม่ก็ฆ่าตัวตาย จนสุดท้ายเขาได้เขียนหนังสือ The Ultimate Evil ที่เล่าทฤษฎีและความจริงที่เขามีต่อคดีนี้ และพยายามให้ตำรวจนิวยอร์กเปิดคดีนี้ขึ้นมาทำใหม่ แต่ทว่าความต้องการเขากลับพบกับทางตัน เนื่องจากทางตำรวจเองมีคนที่ได้ผลงานได้ตำแหน่งไปจากการปิดคดีนี้มากมาย หากต้องรื้อคดีนี้ออกมาทำใหม่จริงเท่ากับว่าตำรวนเองได้ทำคดีผิดพลาดมากว่าสิบปีซึ่งตำรวนไม่ยอมแน่นอน
เขาพยายามหลายต่อหลายทาง พยายามหาผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้ามาสืบคดี จนสุดท้ายเขาได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์นักโทษ เดวิด เบอร์โกวิตซ์ ซึ่งตลอดสิบหกปีที่ถูกจับกุมนั้นไม่เคยปริปากพูดเกี่ยวกับคดีมาก่อน และถึงแม้ท้ายที่สุดเดวิดจะยอมรับว่ามีคนลงมือหลายคน แต่ตำรวจกลับสวนกลับว่า เดวิดให้สัมภาษณ์ตามความต้องการของเมาร์รี่ ไม่มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือใดใด โดยเฉพาะข้อสันนิษฐานที่บอกว่ามีลัทธิซาตานอยู่เบื้องหลังคดีนี้ ตำรวจนิวยอร์กไม่ยอมรับ
จนในที่สุด เมื่อสังคมไม่สนใจ ไร้การยอมรับ นักข่าวเมาร์รี่ได้ปิดตัวเองและเอาตัวออกห่างจากเพื่อนฝูง มีอาการเครียดจากคดีที่เขาหมกมุ่นอยู่เป็นเวลานานจนสุขภาพทรุดโทรมเป็นโรคหัวใจและจากไปในที่สุด คดีนี้ก็อยู่ในความสนใจของใครหลายคน และนำมาสู่การสร้างเป็นสารคดีเรื่องนี้ เพื่อบอกเล่าว่าลัทธิประหลาดที่นับถือซาตานเหล่านี้มีอยู่จริง และอาจจะมีเครือข่ายโยงใยอยู่ทั่วโลก
หากสนใจสามารถดูสารคดีเรื่องนีได้ในเน็ตฟลิกซ์ ซีรีส์มีสี่ตอน ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง ดูวันเดียวจบถ้าไม่เบื่อไปเสียก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น