วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2563

The Beautiful Cure | ความมหัศจรรย์ของระบบภูมิคุ้มกัน และหนทางการต่อสู้กับโรคมะเร็ง


หนังสือที่อ่านจบเล่มแรกของปีนี้ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษที่เล่าเกี่ยวกับจักรวาลและความเป็นมาของภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ โดยหนังสือได้รับรางวัล Science Book Prize 2018 เรื่อง The Beautiful Cure โดยผู้เขียนคือ Daniel M. Davis ศาสตราจารย์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยาที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ซึ่งนอกจากหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังเคยเขียนหนังสืออีกเล่มคือ The Compatibility Gene.

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ เล่าเรื่องระบบภูมิกันได้ง่ายมาก ช่วยร้อยเรียงความรู้เรื่องระบบภูมิคุ้มกันในมนุษย์ได้อย่างเป็นขั้นตอน ประสานกันถึงการค้นพบใหม่ ๆ ทางวิทยาศาสตร์ ดราม่าในวงการนักวิจัย รวมถึงแนวคิดในการวิจัยอีกด้วย เหมาะกับนิสิตนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมถึงผู้ที่ทำงานในวงการวิทยาศาสตร์สุขภาพ และผู้สนใจทั่วไป

สไตล์ของการเขียน คือ ผู้เขียนไม่ได้เล่าลอย ๆ แต่อ้างอิงแหล่งที่มาไว้เพียบ ทั้งงานวิจัย บทความ รวมถึงหนังสือเล่มต่าง ๆ ที่ถ้าผู้อ่านสนใจก็ไปค้นคว้าอ่านเพิ่มเติมได้เลย

เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ โดยจะแบ่งออกเป็นสองพาร์ท หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในวงการภูมิคุ้มกัน เล่าการค้นพบที่เป็นจุดเปลี่ยน จุดเริ่มต้นของวงการ ตั้งแต่การค้นพบเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่น Dendritic Cell นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะการค้นพบ Suppressor T Cell, Natural Killer T Cell และ Cytokine ชนิดต่าง ๆ

ซึ่งระหว่างทางการค้นพบเหล่านี้ ผู้เขียนได้เล่าถึงความลำบาก ความท้าทายของผู้วิจัยที่ต้องพบเจอเมื่อค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่ยังสงสัยถึงการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ว่ามีจริงหรือไม่ จนเป็นเหตุให้ชีวิตต้องล้มเหลวเป็นบาดแผลไปชั่วชีวิต แม้บางคนจะได้รับรางวัลโนเบลจากการค้นพบเหล่านี้ ก็ไม่ได้หมายถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตตลอดไป บางคนก็ตายไปก่อนที่จะได้รับรางวัลด้วยซ้ำไป

พาร์ทสอง จะเล่าถึงความก้าวหน้าของความรู้เรื่องระบบภูมิคุ้มกันรวมถึงการประยุกต์ใช้ในการนำไปรักษาโรคมะเร็ง โดยตอนที่ชอบคือ Fever, Stress and The Power of The Mind ที่จะมาเฉลยความเกี่ยวข้องกันระหว่าง ระบบภูมิคุ้มกันและการเกิดไข้ของมนุษย์ ว่าการที่อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจะช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อของไวรัส และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานได้ดีขึ้น, ความเครียด ส่งผลระยะยาวต่อร่างกายได้อย่างไร การลดความเครียดด้วยการทำสมาธิ มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมถึงการออกกำลังกายด้วยศาสตร์ตะวันออกอย่างไท้เก๊ก ช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกันหรือไม่ ซึ่งในหนังสือได้กล่าวไว้อย่างละเอียดแล้ว ลองไปอ่านกันดู

พาร์ทสุดท้ายที่ชอบคือ Future Medicine คือการนำความรู้เรื่องระบบภูมิคุ้มกันมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง การพัฒนายาตัวต่อไปในอนาคต การค้นพบที่สำคัญ รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างสถาบันมะเร็งที่จะทำให้การพัฒนาเรื่องการวิจัยตรงนี้ก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น เห็นความหวังในการรักษามะเร็งเพิ่มมากขึ้นด้วย

ซึ่งพูดถึงยาก็ต้องพูดถึงอุตสาหกรรมยา ที่เป็นนายทุนให้กับการค้นคว้าวิจัย หรือซื้อผลงานการวิจัยเหล่านั้นมาผลิตยา โดยเฉพาะภายหลังที่มีการพัฒนายามะเร็งตัวใหม่ขึ้นมา ก็ทำให้มูลค่าของตลาดยาเพิ่มขึ้นอีกมาก เช่นยา Ipilimumab ที่มียอดขายในปี 2015 ปีเดียวสูงถึง 1.1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าถามว่าทำไมการคิดค้นยาที่ได้มาด้วยเงินทุนของรัฐบาล ลิขสิทธิ์ต้องตกอยู่ในมือของบริษัทเอกชน อันนี้ก็ตอบไม่ได้ แต่อย่างหนึ่งที่ต้องทำแน่ ๆ คือการวิจัยในมนุษย์และขั้นตอนการปล่อยยาออกสู่ตลาดที่มีขั้นตอนมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทยาเป็นผู้ลงทุนตรงนี้ เพราะยากับบริษัทยา เลี่ยงกันไม่ได้อยู่แล้ว

หมายเหตุ ซื้อหนังสือเล่มนี้ที่ AsiaBooks สาขาสนามบินภูเก็ต ราคา 560 บาท



ไม่มีความคิดเห็น: