วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566

JUNG_E [2023] จองอี ดราม่าแม่ลูก หุ่นกลครองโลก พ่ายต่อทุนนิยม

 

JUNG_E, Netflix, Korean Film

JUNG_E หนังอันดับหนึ่งของเน็ตฟลิกซ์วันนี้เป็นหนังไซไฟดราม่า ที่เน้นดราม่าจนกลบความสนุกอย่างอื่นหมดเลย บวกกับตอนจบที่คนดูต้องถามต่อว่า แล้วไงต่อ แค่นี้เองเหรอ จบแล้วเหรอ? แต่เอาน่าเขาคงคิดมาดีแล้ว 

หนังเล่าถึงโลกอนาคตที่คนต้องอพยพเนื่องจากน้ำท่วมโลก ในระหว่างนั้นเอง ก็มีกลุ่มคนที่จับกลุ่มกันเป็นกบฎเพื่อยึดอำนาจ และฝ่ายพันธมิตรที่ต่อต้าน ซึ่งผมก็จะมีคำถามอีก ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเนี่ยนะ พวกสูดันมาทะเลาะกัน สุดท้ายก็ตีกันเรื่องราวใหญ่โต เกิดฮีโรสาว ที่เป็นคนนำทัพไปตีฝ่ายกบฎจนเกือบจะชนะแล้ว แต่ดันมาโดนยิงตายเพราะเห็นตุ๊กตาที่ลูกสาวให้ไว้ในวันผ่าตัด ...

คือหนังมันเฉลยตอนท้ายแล้วแหละว่าตุ๊กตาที่ทำให้เธอเสียสมาธิจนถูกยิงตายคือตุ๊กตาที่ลูกสาวให้ไว้ ... ก็พอเข้าใจนะ แต่จังหวะมันไม่ได้เลย ตายเพราะตุ๊กตาลูกสาว

เอาล่ะ พอเธอตาย มันก็มีบริษัทนายทุนที่ทำสัญญากับครอบครัวเพื่อให้ขายสมองของเธอนำมาทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อนำไปใช้งาน โดยสัญญานี้เป็นสัญญาทาสที่จะนำข้อมูลสมองของเธอไปทำอะไรก็ได้ ทำได้ทุกอย่างแม้แต่จะนำเธอไปเป็นอุปกรณ์ทางเพศก็ตาม

ดราม่าสองคือ ลูกสาวของเธอที่โตขึ้นมาด้วยเงินที่ได้จากการทำสัญญาขายสมองของแม่ตัวเองให้กับนายทุน ดันมาทำงานเป็นหัวหน้านักวิจัยสมองของแม่ตัวเอง ... ซึ่งในการทำทดลองนั้นหลัก ๆ คือ ต้องการให้แม่ของเธอกลายเป็นหุ่นยนต์ทหาร ... แต่น้ำหนักความน่าจะเป็นมันน้อยมาก เนื่องจากหากต้องการทำ AI ที่ต่อสู้ได้เก่ง ๆ มันไม่จำเป็นต้องใช้ระบบสมองของมนุษย์เลยด้วยซ้ำ อีกอย่างร่างกายของมนุษย์และร่างกายของโรบอตก็แตกต่างกันมาก จนไม่จำเป็นต้องใช้สมองของเธอเลยด้วยซ้ำ ทำให้น้ำหนักของการนำอดีตฮีโร่สาวมาทำเป็นโรบอตสังหารก็ดูน้อยจนไม่น่าเชื่อ

ดราม่าองค์ที่สามคือ ฝ่ายพันธมิตรและกบฎ อยู่ดีดีก็เกิดอยากจะจับมือคืนดีกันขึ้นมา ทำให้โปรเจคท์ที่ทำอยู่ต้องพับไป อดีตฮีโร่สาวที่ตอนนี้กลายมาเป็นชุดข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะโดนเอาไปเป็นหุ่นยนต์แม่บ้าน ... หรือนำไปเป็นอุปกรณ์อย่างอื่นตามแต่นายทุนจะคิดได้ ซึ่งตรงนี้ตัวลูกสาวไม่อยากเห็นแม่ของเธอที่เป็นชุดข้อมูลตอนนี้ตกไปเป็นของเล่นของใคร ทำให้เธอต้องการช่วยแม่ของเธอหลุดจากวงจรอุบาทว์นี้ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าเธอลบข้อมูลทั้งหมดปล่อยให้แม่ของเธอจากไปอย่างสงบก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้น

ดราม่าที่สี่คือ หลังจากลบข้อมูลแม่ของตัวเองออกจากฐานข้อมูล และถ่ายข้อมูลลงในสมองเทียมเพียงชุดเดียวนั้น และหนีออกมาได้แล้ว เธอดันเลือกที่จะลบข้อมูลว่าแม่ของเธอมีลูกเพื่อให้แม่ของตัวเองเป็นอิสระทางความคิด หนีออกไปได้ ซึ่งส่วนตัวการทำในลักษณะนี้ ก็เหมือนคุณทำให้เขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ส่วนฉากจบที่แม่ของเธอในร่างโรบอตไปยืนอ้างว้างเปลี่ยวเปล่ากลางภูเขานั้นจะสื่ออะไร คือสถานการณ์ตอนนี้คือสู้กับนายทุนก็ไม่น่าจะได้แล้ว โรบอตจะใช้ชีวิตยังไง เพราะสุดท้ายแล้วโรบอตคือโรบอต จะไปใช้ชีวิตกลางป่าเขาที่ไม่มีพลังงานก็คงไม่ได้แน่นอน เก็บไว้เป็นปริศนาสำหรับคนดูแล้วกัน

ส่วนตัวดูจนจบแล้วก็ผิดหวังตรงที่เหมือนกับจบง่ายเกินไป แล้วก็ฉากล้างแค้นระบบทุนนิยมก็ไม่มีเลย มันทำให้ตัวหนังขาดอรรถรสบางอย่างที่คนดูได้รับมาตั้งแต่ต้นเรื่องและต้องการปลดปล่อยมันออกไป





ไม่มีความคิดเห็น: