วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Crime Scene: The Vanishing at the Cecil Hotel [2021] ปริศนาการหายตัวไปของ Elisa Lam

 Elisa Lam Netflix

เอลิซ่า แลม (Elisa Lam) เป็นหญิงสาววัย 21 ปีเดินทางจากแคนาดาด้วยตัวคนเดียวจนกระทั่งมาพักที่เมืองลอสแองเจลลิส (LA) โรงแรมเซซิล หายตัวไปอย่างปริศนา จนกระทั่งพบเป็นศพในแทงค์น้ำบนดาดฟ้าโรงแรม การตายของเธอเป็นปริศนาโด่งดังเนื่องจากวิดีโอคลิปที่เป็นหลักฐานเหตุการณ์ที่เอลิซ่ามีชีวิตอยู่ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ที่ตำรวจได้อัพโหลดขึ้นถูกแชร์ขึ้นไปในโซเชียลมีเดียนั้นมีจุดที่ไม่ปกติมากมาย ซึ่งในยูทูปได้มีการทำคลิปที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้หลายคลิปด้วยกัน โดยคลิปที่คนดูเยอะที่สุดนั้นผมได้นำมาวางไว้ด้านล่างแล้ว มีคนดูถึง 25 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นคลิปของยูทูปเบอร์ที่ทำคลิปออกมาเพื่อคลี่คลายปริศนาคดีของเอลิซ่า แลม ในตอนนั้น 

ซึ่งหากดูในตัวสารคดีที่เน็ตฟลิกซ์นำเสนอนั้นจะเห็นได้ว่า คลิปที่ปรากฎออกมานั้นมีข้อสงสัยมากมาย เช่น ทำไมเธอถึงทำตัวประหลาดเหมือนกำลังสื่อสารกับคนที่มองไม่เห็น การที่กดลิฟต์แล้วประตูลิฟต์ไม่ยอมปิดแต่ยังเปิดค้างอยู่อย่างนั้น รวมถึงการกิริยาท่าทางที่ทำเหมือนกำลังหนีใครสักคน ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากลิฟต์แล้วหายตัวไปในที่สุด

ซึ่งตอนนั้นคดีของเธอเป็นที่น่าสนใจคนบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพากันวิเคราะห์คลิปดังกล่าว และพากันคิดว่าเธอน่าจะถูกฆาตกรรม โดยคนที่ถูกสงสัยคือนักร้องที่ใช้ชื่อในวงการว่า Morbid ซึ่งบังเอิญเนื้อเพลงของเขาดันไปคล้ายกับฉากการตายของเอลิซ่า ทำให้ชาวเน็ตสมัยนั้นกระทำการล่าแม่มด จนทำให้ชีวิตของเขาพังลง จนแม้กระทั่งคดีของเอลิซ่าจบลงแล้ว และเขาไม่ใช่ฆาตกร กลับไม่มีคนไปขอโทษเขาที่ทำให้ชีวิตเขาพังแต่อย่างใด

คดีของเอลิซ่ากว่าจะจบได้นั้นใช้ระยะเวลาประมาณสี่เดือน ตั้งแต่เธอหายไปสิบเก้าวัน พบศพเธอในแทงค์น้ำ และรอผลจากการชันสูตร ที่ต้องใช้ระยะเวลานานเนื่องจากร่างกายของเธอไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย หรือถูกข่มขืนฆ่าแต่อย่างใด และหากสงสัยว่าเธอถูกบังคับให้เสพยาหรือไม่นั้น ก็ไม่พบยาเสพติดในเลือดของเธอแต่อย่างใด สิ่งที่พบคือยารักษาอาการไบโพลาร์ของเธอ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ปริมาณยาในเลือดของเธอน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งบอกได้ว่าเธอกินยาไม่ครบตามที่หมอสั่ง ซึ่งอาจมีผลให้เธอคุมอาการทางจิตเวชของเธอไว้ไม่ได้ และชักนำให้เกิดอาการประสาทหลอน เห็นคนที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง รวมถึงการหลบหนีของเธอ ที่สามารถอธิบายได้ด้วยคำบอกเล่าจากครอบครัวของเธอเอง

สุดท้ายคดีนี้จบลงด้วยการสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุด้วยปัจจัยคืออาการไบโพลาร์ของตัวเอลิซ่าเอง ซึ่งจริงจริงเฉลยแต่แรกก็น่าจะจบแล้ว แต่นี่ตัวสารคดีเล่าเหตุการณ์ด้วยความค่อยเป็นค่อยไป ทำให้คนดูเห็นว่าปรากฎการณ์เอลิซ่าแลมส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อสังคม รวมถึงการพลิกกลับไปกลับมาของการสืบวน ที่ดูเหมือนจะมีปมให้คนดูสงสัยตลอดเวลา จนสุดท้ายตอนจบก็ดันเฉลยออกมาง่าย ๆ ซะงั้น แต่เป็นการเฉลยที่เหมือนหักหน้าความสงสัยและการคาดเดาของคนในโซเชียลได้อย่างแรงมาก เรียกว่าในปัจจุบันคือการตบเรียกสติกันเลย

โดยข้อดีของสารคดีนี้นั้น ไม่ได้มีการสัมภาษณ์คนในครอบครัวเพื่อให้เขามารู้สึกเป็นทุกข์ซ้ำไปซ้ำมากับการจากไปของลูกสาว แต่ใช้วิธีสัมภาษณ์คนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจที่ทำคดี อดีตผู้จัดการโรงแรม นายช่างที่เป็นคนพบศพเอลิซ่า รวมไปถึงแขกชาวอังกฤษที่เข้ามาพักในช่วงที่เอลิซ่าหายตัวไปจนกระทั่งวันพบศพ ซึ่งได้บอกว่าพวกเขาใช้น้ำจากแทงค์น้ำนั้นในการอุปโภคและบริโภค และสัมภาษณ์ยูทูปเบอร์หรือแม้กระทั่งคนก่อตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊คเพื่อไขคดีของเอลิซ่า ว่าเรื่องราวดำเนินไปอย่างไรตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าคนในเน็ตก็ยังไม่ยอมเชื่อว่าการตายของเอลิซ่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะหากไปเสิร์ชดูในยูทูปยังมีคนทำคลิปเกี่ยวกับคดีนี้หลังจากปิดคดีไปแล้วมากมาย ส่วนใหญ่มักจะเทใจไปให้การฆาตกรรมและทฤษฎีสมคบคิดมากมาย เช่น เอลิซ่าเกี่ยวข้องกับการทดลองโรควัณโรคที่เป็นอาวุธชีวภาพ การจงใจจัดฉากของตำรวจและฆาตกรเพื่อปิดบังความจริงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ในสารคดีนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างก็มาเล่าภาพจำของตนเอง จะผิดจะถูกอย่างไรให้คนดูตัดสินกันเอาเอง 

ไม่มีความคิดเห็น: