หนังเรื่องนี้ Evil Dead เป็นหนังที่ดูกี่รอบก็ไม่เคยเบื่อ ส่วนตัวยกให้เป็นสุดยอดหนังผีทางฝั่งตะวันตกเลย แบบถ้าถามว่าเรื่องไหนน่ากลัวสุดก็ต้องยกเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ ที่สุดของความคลาสสิคแล้ว ทั้งการเข้าไปพักกระท่อมกลางป่าเก่า ๆ ใต้ถุนบ้านถูกคนบุกรุกใช้เป็นพื้นที่ในการเผาแม่มด ทิ้งคัมภีร์เรียกปีศาจไว้ แล้วคนที่ไปพักเองก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ดูจะมีปัญหาชีวิตกันหน่อย ๆ ไม่ดราม่ามาก
ฟีลหนังวัยรุ่นที่ต้องเจอปีศาจกลางป่านี่เป็นอะไรที่เจอกันบ่อยมาก สุดสุด แต่เรื่องนี้ต่างออกไปตรงที่ไม่ดราม่าเยิ่นเย้อ ไม่มีการใช้ชีวิตแบบสนุกของวัยรุ่น เปิดเจอมาก็เป็นกลุ่มคนที่มาเจอกันเพื่อให้กำลังใจหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องการเลิกจากยาเสพติดและเธอต้องการเลิกแบบหักดิบที่กระท่อมกลางป่าแห่งนี้
เอาล่ะ เมื่อพวกเขาเจอว่าห้องใต้ถุนเป็นพื้นที่ของการทำพิธีกรรม แต่พวกเขาก็เจอหนังสือ แน่นอนว่าหากหนังสือถูกตั้งไว้เฉย ๆ ก็คงไม่เกิดอะไรขึ้น ดันมีหนุ่มเนิร์ดอยากรู้และดันอ่านหนังสือพวกนี้ออกเสียด้วย ก็ดันไปเปิดอ่านหนังสือต้องห้ามนี้ออกมา ซึ่งการอ่านข้อความต้องห้ามเหล่านี้ก็เหมือนการเรียกปีศาจเหล่านี้ออกมาให้มาหาพวกเขาและใช้พวกเขาเป็นเครื่องสังเวย
ส่วนตัวชอบการเริ่มที่คนที่กำลังเลิกยามักจะมีอาการของการอยากยา ซึ่งพอพูดให้เพื่อน ๆ ฟังว่ามีปีศาจหรือมีอะไรแปลกประหลาดในป่าทุกคนก็จะไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าเธออยากกลับไปเสพยามากกว่า จนกระทั่งเมื่อสุนัขตาย หญิงสาวเสพยาถูกปีศาจเข้าสิงแบบเต็มตัว ทำร้ายคนอื่น คนที่สองตาย คนที่สามตาย คนที่เหลือจึงตระหนักได้ว่าสิ่งที่หนุ่มเนิร์ดเรียกออกมาดูท่าจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกแล้ว
วิธีการที่จะกำจัดปีศาจคือ ไฟคลอก ฝังทั้งเป็น และแยกสังขาร ซึ่งดูเป็นเรื่องน่าโหดร้าย และดูเหมือนว่าตอนที่ทำสำเร็จแล้วปีศาจดันไปอยู่กับอีกคนหนึ่งแทน จนสุดท้ายการหนีการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดดูจะกลายเป็นไคลแมกซ์ของหนังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อตอนจบกลับไม่มีเฉลยว่าเจ้าคัมภีร์ปีศาจนี้สุดท้ายแล้วถูกทำลายหรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะไม่กลายเป็นปริศนาให้เกิดโศกนาฎกรรมในครั้งถัดถัดไปแทน
ส่วนตัวชอบมากทั้งความโหดร้ายของหนัง การทำร้ายของปีศาจ และการกระทำของคนที่มีต่อคนด้วยกันเอง บอกถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสัมพันธ์ การเสียสละเพื่ออีกคนได้มีชีวิตรอด และการที่ต้องฆ่าอีกคนเพื่อที่คนที่เหลือจะได้รอดชีวิตจากปีศาจตัวนี้ ส่วนตัวถ้าใครชอบหนังสยองขวัญก็อยากให้ดูจริงจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น