คืนวันอาทิตย์แบบนี้เลือกดูหนังสยองขวัญแบบเบาเบากับ The Crooked Man ชายผู้บิดเบี้ยว เป็นปีศาจที่ถูกเชิญมาตามเสียงเพลง ตามตำนานในหนังเรื่องนี้ ปีศาจชายบิดเบี้ยวคนนี้มีประวัติมาตั้งแต่ปี 1800 ซึ่งมีอายุมากกว่า 400 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ยุคที่ผู้คนยังใช้พิธีกรรมเซ่นสังเวยเพื่อเรียกปีศาจตนนี้ออกมา จนกระทั่งปัจจุบันได้มีนักภาษาศาสตร์คนนึงได้ถอดข้อความโบราณมาเป็นทำนองเพลงในภาษาปัจจุบันโดยไม่รู้เลยว่าเขาได้เปิดกล่องแพนโดร่าออกมา เพื่อให้คนทุกคนบนโลกที่ร้องเพลงนี้สามารถเชิญปีศาจตนนี้ออกมาฆ่าเขาได้
โดยเจ้าชายบิดเบี้ยวนี้ได้เคยถูกปรากฎในหนังผีแฟรนไชส์เรื่องดัง The Conjuring ด้วย โดยว่ากันตามรายละเอียดในหนัง เจ้าชายบิดเบี้ยวผู้นี้จะถูกเชิญออกมาโดยผ่านการร้องเพลง หากใครร้องเพลงนั้น คนที่อยู่ในระหว่างการร้องเพลงนั้นก็จะถูกฆ่าตายจนหมด ซึ่งไม่แน่ใจว่าอาศัยเกณฑ์อะไรในการฆ่า เช่น คนที่ฟังเพลงนั้นด้วยกัน หรือคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่ในบ้านเดียวกัน แต่ถ้าเป็นคอนโดที่คนอาศัยอยู่เป็นร้อย ๆ คน เจ้าชายบิดเบี้ยวคนนี้จะตามฆ่าได้หมดหรือไม่ นับว่าน่าสนใจ
แต่ถ้าพิจารณาตามเนื้อเรื่องแล้ว แม่แต่คนส่งพิซซ่าที่ไม่ได้ร้องเพลงนี้ แต่มาส่งในขณะที่ไฟดับหลังจากที่ร้องเพลงจบแล้วก็โดนฆ่าไปด้วย แสดงว่าใครที่อยู่ร่วมกัน ณ สถานที่และเวลาเดียวกันนั้นต้องโดนฆ่าตามไปด้วย โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ คนที่ร้องเพลงนี้คือเด็กวัยหกขวบ ซึ่งพอร้องเพลงปุ๊บก็มมีเพื่อนคนนึงถูกฆ่าตายและเพื่อนอีกคนถูกสงสัยว่าเป็นฆาตกร ก็ถูกส่งไปสถานพินิจร่วมหกปีจนกลับมา ทีนี้พอเธอกลับมาปุ๊บคำสาปเหมือนจะดำเนินต่อไป ทุกคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นโดยฆ่าตายจนเกือบหมด
เอาล่ะ ความสนุกของเรื่องนี้คือการเอาตัวรอดจากเจ้าชายบิดเบี้ยวคนนี้ ซึ่งตามบทแล้วก็ทุกคนตายเกือบหมด ยกเว้นเด็กสาวที่ถูกสงสัยเป็นฆาตกรและชายหนุ่มพี่ของเพื่อนเธอที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยกัน ที่ตามหาเบาะแสจนพบกล่องเพลงปีศาจ ซึ่งเธอก็พยายามหาจนพบโลเคชันของบ้านหลังหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเจ้ากล่องเพลงบ้านี้ เอาล่ะ ฟีลแบบแก้ปัญหาจบแล้วส่งเจ้าชายบิดเบี้ยวลงนรกได้แล้ว ....
คือส่วนตัวหนังไม่ค่อยทำให้ผมอินสักเท่าไหร่ เนื่องจากบทที่ความต่อเนื่องมันง่อยไปหน่อย เช่น เด็กหกขวบเดินตามหาที่มาของเสียงตามลำพังไม่เรียกพี่เลี้ยงหรือแม่ไปดู และยังถือมีดไปด้วย ซึ่งผิดวิสัยไปหน่อย ไปอยู่สถานพินิจหกปี กลับมาปุ๊บ คำสาปก็กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนแรกมันหยุดได้ไง หรือแม้กระทั่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าตัวของเด็กสาวที่ถูกคำสาปออกจาเมืองไปอีกครั้งคำสาปจะหยุดหรือไม่ แต่ตัวละครก็พยายามบอกว่ามันยากที่จะหยุดเพราะเรื่องมันดำเนินไปเยอะแล้ว เอ๊า
จุดอ่อนของเจ้าชายบิดเบี้ยวนี้คือแสงสว่าง ถ้าเหยื่ออยู่ท่ามกลางแสงสว่างก็จะรอดจากเจ้าชายบิดเบี้ยวนี้ได้ แต่ประเด็กคือ เจ้าผีตัวนี้ดันดับไฟในบ้านได้น่ะสิ แล้วเหยื่อจะหนีได้อย่างไร แถมเหยื่อบางคนที่รู้อยู่แล้วว่าเจ้าผีตัวนี้กลัวเสียงสว่างก็ยังปิดไฟนอน กลายเป็นหมูให้เจ้าผีบิดเบี้ยวนี้เชือดง่าย ๆ กลับกันที่เด็กสาวที่ถูกส่งไปสถานพินิจกลายเป็นว่าตายยากเสียเหลือเกิน และรอดจนจบเรื่องอีกต่างหาก
อีกอย่างที่ขัดในมากคือหนังเรื่องนี้ขาดทุนในเรื่องการทำซีจีแน่นอน ทั้งแมว ทั้งบ้าน ต้นไม้ ก้อนหิน ดูลอยออกมาจากฉากไปหมด แม้กระทั่งเจ้าชายบิดเบี้ยวเองก็ดูใช้เทคโนโลยีที่คิดว่าน่าจะไม่ทุ่มทุนสร้างแน่นอน นับว่าเสียดายมากมากกับพล็อตที่น่ากลัวแบบนี้
ระดับความน่าดู: ไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น