วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

Lover Stalker Killer

Lover Stalker Killer (2024)

สารคดีที่สร้างจากเหตุอาชญากรรมจริง มีคนเสียชีวิตจริงจากเรื่องนี้ ใครจะคิดว่าการที่ผู้ชายคนหนึ่งจะเดตกับผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกันจะนำไปสู่การฆาตกรรม เดฟ ครูปา (Dave Kroupa) หลักจากเลิกกับอดีตภรรยา และปล่อยให้ลูกทั้งสองคนอยู่กับเธอ เขาได้ย้ายเมืองที่อยู่อาศัยไปยังต่างเมืองเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ในวัย 35 ปี ด้วยความที่อยู่คนเดียวในเมืองใหม่เขาจึงเดตผู้หญิงผ่านช่องทางออนไลน์

เขาเสิร์ชหาผู้หญิงมากมายจนมาจับคู่กับผู้หญิงคนแรกคือ ลิซ โกลยาร์ (Liz Golyar) เดฟตัดสินใจมีความสัมพันธ์กับเธอไม่ได้จริงจังอะไร เขาไม่ได้คาดหวังความสัมพันธ์ที่ยืนยาว จนเขาห่างกับเธอได้สักพัก เขาตัดสินใจที่จะเดตกับผู้หญิงอีกคนผ่านช่องทางออนไลน์เช่นกัน คือ  คารี ฟาร์เวอร์ (Cari Farver) ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเดฟกับคารีนี้ ถือว่าเป็นไปด้วยดี เพราะนอกจากจะมีความสัมพันธ์กันแล้ว พวกเขายังเหมือนเป็นเพื่อนคุย เพราะหลายครั้งที่เขาไม่ได้มีอะไรกัน ทำได้เพียงแค่คุยกันในอพาร์ทเมนต์ของเดฟเท่านั้น

จนอยู่มาวันนึงถึงจุดเปลี่ยนที่ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นเจอกัน เพราะลิซขอมาเอาของที่อพาร์ทเมนต์ของเดฟ ในขณะที่คารีอยู่ในห้องของเขา ผู้หญิงทั้งสองคนเผชิญหน้ากันเพียงครู่เดียวก่อนห่างกันไป แต่หลังจากนั้นสองสามวัน คารีได้หายตัวไปจากชีวิตของเดฟ แล้วเธอก็ยังส่งข้อความคุกคามเดฟอีกด้วย ทั้งในเชิงของการไม่ได้คบกัน การทำลายชีวิตจองคารี หรือแม้กระทั่งการคุกคามชีวิตของเดฟเอง

ถึงแม้ว่าคารีจะส่งข้อความคุกคามเดฟ แต่คารีเองก็ไม่เคยปรากฎตัวอีกเลย แม้กระทั่งกับแม่และลูกชายของเธอ แม้กระทั่งพ่อของเธอที่กำลังป่วยหนักและจากไปหลังจากคารีหายตัวไปไม่นาน เธอทำเพียงแค่ส่งข้อความมาบอกแม่ของเธอว่าไม่ต้องตามหาเท่านั้น แต่พฤติกรรมต่าง ๆ ทำให้แม่ของเธอเชื่อว่าเธอไม่น่าจะตั้งใจหายตัวไปเอง เพราะสภาพห้องของเธอ เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งยาโรคประจำตัวของเธอยังอยู่เหมือนเดิมไม่ได้เอาไป เหมือนเธอหายตัวไปเพียงเฉย ๆ  เท่านั้น การที่เธอแอคทีฟในโซเชียลหรือการส่งข้อความต่าง ๆ นั้นไม่ได้ยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เพราะหลังจากนั้นไม่เคยมีใครเห็นตัวของคารีอีกเลย

แม่ของเธอแจ้งความคนหาย ตำรวจได้ไปพบเดฟเนื่องจากเขาเป็นคนที่เธอเดตด้วยก่อนที่จะหายไป แต่เมื่อตำรวจพบข้อความในเครื่องของเขา ที่คารีส่งข้อความมาคุกคามนั้น ตำรวจจึงจบคดีไป คิดว่าคารีน่าจะหายตัวไปเองเท่านั้น

แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น การสตอล์กเกอร์ของคารีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มีเหยื่อเพิ่มขึ้นคือ ตัวของลิซ ผู้หญิงอีกคนที่เดฟเคยเดตด้วย เธอกลายเป็นเหยื่อของการคุกคามทั้งการได้รับข้อความ การกรีดเสื้อผ้า ไปจนกระทั่งการเผาบ้าน แต่กระนั้นเอง คารีก็ยังไม่ถูกจับเนื่องจากไม่มีใครเห็นตัวของเธอเลย

เวลาผ่านไปทั้งที่ทุกอย่างยังไม่คลี่คลาย ได้มีทีมสืบสวนใหม่เข้ามาที่ยังค้างคากับคดีการหายตัวไปของคารี ซึ่งไม่มีใครพบเธอมากว่าสองปี แต่ทำไมเธอยังแอคทีฟผ่านข้อความหรืออีเมลล์อยู่ ทำให้คู่หูนักสืบ จิม โดตี (Jim Doty) และ ไรอัน เอวิส (Ryan Avis) ตัดสินใจที่จะรื้อคดีการหายตัวไปของคารี ฟาเวอร์ อีกครั้ง

พวกเขาตัดสินใจกลับไปดูพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งได้ไปพบกับแม่ของคารี คือ แนนซี่ เรนี่ย์ (Nancy Raney) ซึ่งแนนซี่เองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกเขาพยายามที่จะไขคดีนี้ให้สำเร็จว่าแท้จริงแล้ว คารี หายไปไหนกันแน่ และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

จิมกับไรอัน ได้รื้อไฟล์ทั้งหมดรวมถึงข้อความที่คารีส่งข้อความมาคุกคามเดฟและลิซ ซึ่งพวกเขาพบว่าพวกเขาต้องได้รับการช่วยเหลือจากหนุ่มเนิร์ดผู้เชี่ยวชาญด้านไอที คือ โทนี่ คาว่า (Tony Kava) โดยโทนี่ได้สืบจากไอพีแอดเดรสของข้อความทั้งหลาย ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นการเข้าวีพีเอ็น (VPN) หรืออินเทอร์เน็ตสาธารณะ หรือไม่ก็ร้านเบอร์เกอร์ที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ส่งข้อความได้ แต่เขาได้ใช้โปรแกรม Dex ที่เขาคิดค้นขึ้นเพื่อหาไอพีแอดเดรสร่วมซึ่งสามารถระบุที่อยู่บ้านหลังหนึ่งได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตกใจว่าบ้านหลังนั้นคือลูกน้องของโทนี่เอง ซึ่งเมื่อสืบต่อไปพบว่าลูกน้องของโทนี่มีแฟนที่คบคบเลิกเลิกอยู่คนหนึ่งที่เข้ามาอาศัยอยู่กับเขาหลังจากที่บ้านของเธอเกิดเพลิงไหม้ ชื่อของเธอคือ ลิซ โกลยาร์ 

พวกเขาตกใจมากที่รู้ว่า ลิซ คือคนที่ทำตัวเป็นคารีส่งข้อความหาทุกคน คุกคามเดฟ ส่งข้อความหาตัวเอง ส่งข้อความหาแม่ของคารี โดยทำตัวเป็นเหยื่อคนหนึ่งเพื่อเรียกความน่าสงสารจากเดฟให้กลับมาคบเธออีก เมื่อตำรวจรู้เรื่องนี้ ตำรวจคิดว่าลิซคือคนที่ทำให้คารีหายตัวไป แต่ไม่รู้ด้วยวิธีการไหนและอย่างไรนั้น ทำให้พวกเขาสืบโดยการใช้ GPS ติดตามรถของเธอ พบว่าลิซได้ขับรถเวียนรอบบ้านของ เอมี่ ฟลอร่า (Amy Flora) เพราะเดฟเองถึงแม้จะเลิกกับแม่ของลูก แต่เขาก็ยังไปพบลูกที่บ้านของเอมี่ทุกอาทิตย์ จนทำให้ภรรยาเก่าของเดฟเข้าลิสต์ที่ลิซต้องจัดการด้วยเช่นกัน

เมื่อมีความเป็นไปได้ว่า เดฟจะกลับไปอยู่กับภรรยาเก่าเพื่อดูแลลูกทั้งสองคน ลิซจัดการเรียกร้องความสนใจด้วยการยิงตัวเองทันที ก่อนที่จะใส่ร้ายว่าคนยิงคือเอมี่ เพื่อต้องการให้เธอถูกจับและแยกจากเดฟ แต่ไม่สำเร็จ เพราะตำรวจรู้แล้วว่าเธอคือคนที่ปลอมตัวเป็นคารี และยังส่งข้อความคุกคามไปยังเดฟและตัวเองเพื่อสร้างเรื่องว่าตัวเองเป็นเหยื่อ จนถึงตอนนี้ที่ตำรวจรู้ตัวแน่แล้วว่า ลิซทำให้คารีหายตัวไปนั้น แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่า คารีได้เสียชีวิตแล้วหรือไม่นั้น อาจทำให้การติดสินในชั้นศาลนั้นส่งผลให้ลิซพ้นผิดได้

ทั้งจิม ไรอัน และโทนี่จึงพยายามสืบจากเอกสารหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง รวมถึงการพบคราบเลือดบนเบาะด้านที่นั่งข้างคนขับบนรถของคารี ลายนิ้วมือของลิซที่อยู่ในรถของคารี และภาพรถของคารีในมือถือลิซ แน่นอนว่าลิซปฏิเสธทั้งหมด พวกเขาจึงพยายามหาหลักฐานเพิ่มจนกระทั่งไปได้เอสดีการ์ดที่เก็บภาพของมือถือของลิซในข่วงที่คารีหายตัวไป จนกระทั่งพวกเขาพบภาพท่อนขาที่มีรอยสักเป็นภาษาจีนที่มีความหมายว่า "แม่" ซึ่งเป็นท่อนขาของคารี โดยภาพเส้นเลือดที่ปูดโปนนั้นเป็นหลักฐานว่าถูกถ่ายเมื่อคารีเสียชีวิตแล้วแน่นอน

จนสุดท้ายแล้วศาลตัดสินให้จำคุกลิซตลอดชีวิต และคืนความยุติธรรมให้กับคารีและครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถคืนชื่อเสียงของคารีกลับมาได้ เพราะก่อนหน้านั้นช่วงที่คารีหายตัวไป มีแต่คนกล่าวหาว่าเธอเป็นบ้าด้วยการที่เธอกินยารักษาอาการไบโพลาร์ และส่งข้อความคุกคามเดฟและลิซนั้น ทำให้การตัดสินของศาลเป็นการล้างมลทินของเธอไปในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: