ใช้เวลาสามวันในการค่อย ๆ ดูซีรีส์สยองขวัญ Castle Rock ซีซัน 1 โครงสร้างของบทละครนำมาจากนิยายของสตีเฟน คิง มาพลอตรวมกัน ให้มีฉากหลังเป็นเมือง Castle Rock เมืองสยองขวัญที่ปรากฎในนิยายของสตีเฟนคิงหลายเรื่อง ไม่มีอยู่จริงในแผนที่อเมริกา
ความสยองขวัญของซีรีส์เรื่องนี้ จะกัดกินคนดูอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำลายชีวิตตัวละครไปทีละนิด จนถึงจุดที่ชีวิตพังลง ไม่มีวันเหมือนเดิม โดยความสยองของหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่วิญญาณ ผีร้าย แต่คือปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่คนที่อยู่เมืองนี้ต่างบอกว่าคือเมืองที่ถูกสาป
จุดสนใจของซีรีส์เรื่องนี้คือ จุดกำเนิดความหลอน คือ มิติคู่ขนาน เฉลยในตอนท้ายของซีรีส์ ซึ่งประตูเชื่อมอยู่ในเมืองนี้ เป็นสาเหตุให้มีคนหลุดเข้ามา แต่มีข้อสงสัยที่หนึ่งก็คือ ถึงแม้การดำเนินชีวิตของตัวละครในมิติคู่ขนานจะไม่เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน แต่ตัวละครจะเป็นตัวเดียวกัน เช่น ในมิติที่ 1 มอลลี่หญิงสาวผิวขาวร่างท่วมไว้ผมยาว ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ในมิติที่ 2 มอลลี่ยังคงเป็นหญิงสาวผิวขาวร่างท้วมไว้ผมยาว ใช้ชีวิตท่ามกลางความกังวล คนเดียวกันแต่นิสัยต่างกัน
แต่กลับมีตัวละครบางตัวที่ลักษณะจะต่างออกไปกันอย่างสิ้นเชิง เหมือนเป็นความผิดพลาดของจักรวาล แล้วพยายามจำกัดความผิดพลาดนั้นในซีรีส์เรื่องนี้ คนที่นำพาโชคร้าย ต้นเหตุของการเกิดโศกนาฎกรรม
- ผู้คุมนักโทษ ยิงเพื่อนร่วมงานตายนับสิบ จนถูกวิสามัญในที่สุด
- งานวันเกิดกลายเป็นงานศพ พ่อกับแม่ทะเลาะกันจนฆ่ากันตาย
- เหตุเพลิงไหม้ในโรงพยาบาล จนเป็นสาเหตุให้คนตายและสูญหาย
- นักโทษตีกันในห้องขัง ทำให้หลุดออกมา ยิงคนในสถานีตำรวจตายทั้งหมด
ในซีรีส์เรื่องนี้ผมได้ยินสองสามประโยคแล้วติดหู ประโยคแรกคือ
- It wasn't me, it was this place. สื่อถึงว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เพราะผม (คน) แต่เป็นเพราะสถานที่ คือ เมืองแห่งนี้มากกว่า ที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น
- Voice of God เสียงของพระเจ้า ที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้ มีบางคนได้ยินแผ่ว ๆ บางคนได้ยินแค่บางครั้ง ซึ่งคนที่เชื่อก็มักจะบอกว่าคือคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้าที่เขาต้องทำตาม แม้กระทั่งการปลิดชีวิตตัวเองก็ตาม
- Into the Woods คือคำที่ตัวละครมักพูดอยู่บ่อย ๆ เข้าไปในป่า เข้าไปฟังเสียงของพระเจ้า เข้าไปช่วยเขา อย่าให้เขาเข้าไป เป็นต้น เหมือนป่าของเมืองนี้เป็นที่สิงสถิตของพระเจ้า เป็นที่รับฟังสาส์นจากพระองค์ เป็นบ่อเกิดเรื่องราวความสยองขวัญทั้งหมด
ตัวละครที่แสดงแล้วชอบมาก
- Noel Fisher แสดงเป็นผู้คุมที่ช่วยให้ปีศาจหลุดออกมา หาความช่วยเหลือให้ปีศาจ จนสุดท้ายตกเป็นเหยื่อของปีศาจแล้วก่อเหตุฆ่าล้างคุกจนตัวตาย จังหวะการแสดงอารมณ์ที่สับสนทำให้เราเจ็บปวดไปกับตัวละครมาก
- Sissy Spacek แสดงเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่เป็นตัวละครหนึ่งที่ผลักเรื่องให้ดำเนินไปได้ดีมาก การแสดงของเธอสุดยอด จังหวะการสลับอารมณ์ไปมา ระหว่างช่วงภาวะปกติกับช่วงจังหวะอัลไซเมอร์ ที่มีอาการสับสนระหว่างมิติและเวลาที่อยู่ปัจจุบัน
ในซีรีส์จะมีเพลงประกอบเพลงหนึ่งที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนหัวใจจะเต้นไปตามจังหวะเพลง คือเพลง Clap Hands ของ Tom Waits ที่ออกมาในปี 1985 ฟังแล้วเหมือนเป็นเพลงที่ปลุกความรู้สึกความรู้สึกขบถ ความรู้สึกต่อต้าน อาจจะเป็นเพราะเสียงของทอม หรือเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลองไปฟังดูครับ
หากจะให้บทสรุปของซีรีส์เรื่องนี้ต้องบอกว่า ไม่มีครับ ไปดูเอง อยากให้ทุกคนสัมผัสความรู้สึกสยองที่มันค่อย ๆ กัดกินเข้ามาในชีวิตปกติของเรา เรื่องราวอาจจะเริ่มต้นจาก มีสายโทรเข้ามาสักสาย แล้วหลังจากนั้นชีวิตเราจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น