จากหนังสเปนที่คนธรรมดาต้องกินยาเพื่อให้ได้รับพลังพิเศษเป็นเวลาห้านาที "Project Power [2020] ฮีโร่ห้านาที" (คลิก) มาวันนี้กลับมาดูหนังเยอรมัน เรื่องของมนุษย์ที่มีพลังพิเศษต้องกินยาเพื่อกดพลังความสามารถพิเศษของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้พลังของตัวเองระเบิดออกมา เพื่อใช้ชีวิตปกติในสังคมธรรมดามากที่สุด เช่นเดียวกับตัวเอกของเรื่อง เวนดี้ แม่บ้านที่ทำงานพิเศษร้านขายอาหารในปั๊ม สถานะชีวิตตอนแรกกำลังถูกไล่ออกจากบ้านของตัวเอง ทุกอย่างเข้าขั้นย่ำแย่ จนกระทั่งเธอเจอกับคนจรจัด ที่มาบอกเธอว่า เธอเป็นพวกเดียวกับเรา ประโยคเดียวกับชื่อหนัง "You're One of Us"
เมื่อสถานการณ์รอบตัวกดดันจนเธอต้องตัดสินใจหยุดกินยาที่กินมาตั้งแต่เด็ก เธอพบว่าเธอมีพละกำลังมหาศาล เรียกความมั่นใจกลับคืนมา เธอสามารถจัดการอันธพาลระหว่างทางกลับบ้าน แก้ปัญหาให้กับลูกชาย และสุดท้ายคือปล้นเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดยการที่เธอเตะมันเพียงครั้งเดียว
ชายจรจัดที่ชื่อมาเร็ก มีพลังในการเป็นอมตะ (Invisible) เพื่อนร่วมงานของเธอเอลมาร์มีพลังในการเป็นมนุษย์ไฟฟ้า (Electro Man) ร่วมกับเธอในการเข้าไปช่วยคนที่มีพลังแบบเดียวกันที่รัฐบาลกำลังกดให้เขาอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยา แต่ทว่าทุกอย่างกลับพังลง เอลมาร์มีความคิดที่เป็นปฏิปักษ์กับมนุษย์ธรรมดา ในขณะที่เวนดี้กับมาเร็ก ต้องการเพียงแค่ช่วยปลดปล่อยครอบครัวที่มีพลังพิเศษแบบเดียวกันเท่านั้น แต่เอลมาร์ไปไกลถึงขั้นที่ฆ่าพ่อของตัวเอง และต้องการฆ่าครอบครัวของเวนดี้ เพราะเชื่อว่าหากหมดครอบครัวไปเวนดี้ก็จะสามารถมาอยู่กับเขาได้
เอลมาร์วางแผนให้ทั้งมาเร็กและเวนดี้ถูกจับเข้าไปรักษาในสถานพยาบาลที่ฉากหน้าเป็นคลินิกแต่เบื้องหลังคือคุกที่ขังคนมีพลังพิเศษเอาไว้ ทุกอย่างเหมือนจะจบลงที่เธอถูกขังในนั้นตลอดไป ทว่าเอลมาร์กลับทำเรื่องให้ใหญ่กว่านั้น เขาใช้พลังของเขาในการดับไฟของคลินิกคุมขัง และบ้านของเวนดี้ เพื่อใช้มันในการบังคับให้เวนดี้ทำตามใจของเขาเอง
แต่สุดท้ายด้วยพลังแห่งรัก และความปัญญาอ่อนของเอลมาร์ ก็ทำให้เวนดี้ช่วยครอบครัวไว้ได้ นั่นแหละ หลังจากนั้นเธอก็ออกเดินทางตามหาครอบครัวผู้มีพลังแบบเดียวกัน จบ
สรุป พล็อตค่อนข้างอ่อน เน้นนำเสนอการต่อสู้ของคนปกติธรรมดาที่มามีพลังพิเศษในภายหลัง ตัวร้ายอย่างเอลมาร์ เป็นบุคลิกที่เรียกว่ามีความคิดหลุดโลกยึดติดกับโลกของการ์ตูน จนทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตในโลกจริงอย่างปกติได้ ยิ่งพอได้รับพลังพิเศษยิ่งทำให้ความคิดของเขาสุดโต่งมากขึ้น ทำให้การต่อสู้เป็นการต่อสู้ระหว่างคนมีพลังพิเศษด้วยกัน ไม่ใช่ต่อสู้กับองค์กรที่ควบคุมเขาและเธอแต่อย่างใด
ความคาดหวัง หากมีภาคต่อก็หวังให้หนังมีบทต่อสู้ที่โชว์พลังพิเศษมากกว่านี้ ภาคนี้เหมือนโชว์ดราม่าชีวิตคนธรรมดาและปัญหาชีวิตของเด็กเนิร์ดมากไปหน่อย
ระดับความน่าดู 1/5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น